เตือน 3-8 ก.ย. 65 พื้นที่ลุ่มต่ำเจ้าพระยา อ.โผงเผง จ.อ่างทอง , อ.บางบาล อ.ผักไห่ จ.อยุธยา , จ.นนทบุรี , จ.ปทุมธานี รวมทั้ง กทม. ระวังน้ำหลาก น้ำล้นตลิ่ง หลังปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา
วันที่ 1 กันยายน 2565 นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ออกประกาศแจ้งเตือนเฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณ "แม่น้ำเจ้าพระยา" ด้วยกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์จะมีฝนตกหนักในช่วงวันที่ 3 - 8 กันยายน 2565 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ประเมินสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา จากฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ อยู่ในเกณฑ์ 2,000 - 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลทำให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ 1,800 - 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
โดยจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 40-50 เซนติเมตร ในช่วงวันที่ 1-10 กันยายน 2565 บริเวณชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี และ กรุงเทพมหานคร
สำหรับในปัจจุบันสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ อยู่ที่ 1,843 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 15.91 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 13.75 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.59 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนอยู่ที่ 1,763 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งส่งผลทำให้ที่สถานีวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุดทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 1,846 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบความมั่นคงอาคารป้องกันริมแม่น้ำและเสริมคันบริเวณจุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่นพื้นที่ริมแม่น้ำนอกคันกั้นน้ำให้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด