ชาวบ้านเดือดร้อนร้องสื่อช่วย!! ถนนเข้าหมู่บ้านใช้กันมานับร้อยปี ปัจจุบันความเจริญเข้าถึง ปัญหาเลยเกิด ในอดีตบรรพรุษ ได้ตกลงเพื่อไปมาหาสู่กัน จนทาง อตบ.จัดสรรงบประมาณลาดยางเพื่อสะดวกการเข้า-ออก สุดท้ายอีกฝ่ายถมพื้นที่เตรียมทำหมู่บ้าน ชาวบ้านเข้าออกเลยเดือดร้อน
จากกรณีที่ที่ชาวบ้าน หมู่ที่ 6 ตำบลแสนตอ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับความเดือดร้อนเรื่องถนนเข้าหมู่บ้าน ถึงขั้นมีการร้องเรียนหลายหน่วยงาน เบื้องต้นทางปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลแสนตอ ได้ตั้งคณะทำงานเร่งตรวจสอบ เรื่องถนนเส้นดังกล่าวแล้ว เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรม โดยขอเวลา 1 เดือนเพื่อจะมีการสอบถามชาวบ้านรุ่นเก่าๆ รวมถึง กำนัน และผู้นำท้องถิ่นรุ่นเดิมๆก่อนๆ ย้อนกลับไป เพื่อให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย เรื่องถนนเส้นนี้ ซึ่งก่อนที่ทางหน่วยงานท้องถิ่นจะทำการลาดยางทำถนนให้ก็ผ่านตามขั้นตอนไม่มีการคัดค้าน สุดท้ายคนเก่าเสียชีวิตหมด อีกฝ่ายจะปรับปรุงพื้นที่รางวัดพื้นที่ใหม่เลยเกิดปัญหา
วันนี้ 01 ก.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปยัง องค์การบริหารส่วนตำบลแสนตอ เพื่อขอทราบรายละเอียดกรณีชาวบ้านหมู่ 6 ตำบลแสนตอ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เดือดร้อนเรื่องถนนเข้าหมู่บ้าน โดยทางปลัด อบต.ได้นำเอกสารการก่อสร้างถนนเส้นเข้าหมู่บ้านตั่งแต่ปี 2550 โดยทาง อบต.ได้ดำเนินการตามขั้นตอนมีการทำประชาพิจารณ์ก่อนจะมีการก่อสร้าง โดยในช่วงนั้นไม่มีผู้ใดคัดค้าน ประกอบกับเส้นทางเส้นนี้ตั่งแต่บรรพรุษ ได้มีการให้มีการใช้พื้นที่ร่วมกัน แต่ปัจจุบัน คนเก่าอายุเกือบ 100 ปี ได้เสียชีวิต คงเหลือลูกหลานอายุเกิน 70 ปี เป็นส่วนใหญ่ รวมถึงประชาชนทั่วไปก็ใช้เส้นทางนี้กันมาตลอด
ล่าสุดพื้นที่อีกฝั่งได้เตรียมจัดถมพื้นที่เพื่อปรับปรุงพัฒนาที่ดินตนเอง ได้มีการรางวัดพื้นที่ใหม่ จนเกิดมีการปักเสาตามที่มีการรางวัด จนไปปิดถนนที่ลาดยางเข้าหมู่บ้าน ชาวบ้านที่ใช้เส้นทางนี้ผ่านเข้า-ออก เกิดเดือดร้อนเกรงว่าหากมีการปิดเส้นทางนี้จะไม่มีทางเข้าออกในอนาคต จึงมีการรวมตัวไปร้องศูนย์ดำรงค์ธรรม และวอนขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบทีว่าทางเข้าบ้านของตัวเองที่อาศัยกันอยู่จำนวนมาก มีการเขียนป้ายข้อความแสดงตนเป็นเจ้าของพื้นที่ และปักเสาข้ามไปจนถนนที่เข้า-ออกหายไปทั้งเส้น ชาวบ้านเกรงว่าในอนาคตจะเดือดร้อน จึงต้องออกไปร้องขอหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยดูแล และชี้ให้ชัดว่าถนนเส้นนี้สรุปเป็นทางสาธารณะหรือไม่ หลังจาก มีเจ้าของที่กำลังถมพื้นที่แจ้งแสดงตนว่าเป็นที่ดินของตนพร้อมปักป้าย และนำเสาหลักเขต ปักแจ้งเขตห้ามบุคคลเข้าออกทางเส้นนี้ เป็นถนนส่วนบุคคล
นางบุญยงค์ โพธิ์เงิน อายุ 74 ปี นายฉลวย บุญเกิด อายุ 63 ปี และนางระเบียบ น้ำใจสุข อายุ 59 ปี ตัวแทนชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองและชาวบ้านเดินและใช้ถนนเส้นนี้ แต่ก่อนเป็นถนนลูกรัง และทางองค์การบริหารส่วนตำบลแสนตอก็ได้มาเทลาดยางตั่งแต่ปี 50 ก็ไม่มีใครมาแจงว่าเป็นเจ้าของที่ และโต้แย้ง กับการก่อสร้างถนนเส้นนี้ ตนเองและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ด้านในที่ต้องผ่านเส้นทางนี้ในการเข้าออก เพราะถ้าปิดเส้นทางตนเองและชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณด้านในจะเข้าบ้านได้อย่างไร จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาชี้ชัดด้วยและให้นำเสาหลักเขต ออก และป้าย รวมถึงดินที่ใหลกลบพื้นถนน จนกว่าจะมีคำสั่งจากศาลว่าที่ดินตรงนี้ เป็นทางสาธารณะหรือ มีเจ้าของ หรือยังไม่มีการดำเนินการอะไรตนเอง และชาวบ้านจะเดินทางไปร้องศาลปกครองที่จังหวัด สุพรรณบุรี ให้ช่วยเหลือ ชาวบ้านแจ้งว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุด ถนนใช้กันมานับร้อยปีแล้ว รวมถึงทาง อบต.ก็จัดสรรงบประมาณทำลาดยางให้ แต่วันนี้กับมีเจ้าของที่ดินแสดงว่าถนน เป็นที่ดินตนเอง และปักหลักเขตทำให้ชาวบ้านเข้า-ออก ยากลำบากรถสวนกันไม่สะดวก ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนฝากหน่วยงานช่วยชาวบ้านด้วย
ล่าสุดทางปลัล อบต.ได้แจ้งว่าการตั้งคณะกรรมการเพื่อเร่งตรวจสอบปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านแสนตอ หมู่ที่ 6 เรื่องถนนเข้าหมู่บ้าน จะใช้เวลาตรวจสอบคาดจะเสร็จภายในเวลา 1 เดือน จึงขอให้ชาวบ้านหมู่ 6 รอฟังการตรวจสอบจากหน่วยงานราชการ ย้ำว่าไม่ได้นึ่งเฉย แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อนแล้วผลจะออกมาเช่นใด จะแจ้งให้ชาวบ้านหมู่ 6 ทราบ ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งเฉยทำงานมาตลอดตั้งแต่มีการร้องเรียน แต่ต้องดำเนินการตามขั้นตอน และจะต้องได้รับความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
ทีมข่าวกาญจนบุรี