น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตือนพี่น้องประชาชนศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งบิตคอยน์ และคริปโตเคอร์เรนซี อาจถูกหลอกลวงสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีกลุ่มผู้เสียหายถูกหลอกให้ลงทุนซื้อขายเหรียญคริปโตฯ สูญเงินไปกว่าหลายล้านบาท
น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อไปว่า นักลงทุนควรศึกษาให้รอบคอบก่อนการลงทุน และตรวจสอบว่าผู้ขายอยู่ในข่ายที่ต้องได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรือไม่ หากเข้าข่ายได้รับอนุญาตแล้วหรือยัง โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่ www.sec.or.th หรือทางแอปพลิเคชัน SEC Check First หากมีข้อสงสัยสามารถโทรปรึกษาได้ที่ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต. หมายเลข 1207 ที่สำคัญควรตรวจสอบชื่อเว็บไซต์และรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจให้ครบถ้วนทุกตัวอักษร เพื่อป้องกันมิจฉาชีพปลอมแปลง และสามารถแจ้งความในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com หรือเดินทางไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งติดตามข้อมูลข่าวสารของทางการเกี่ยวกับการหลอกลวงลงทุน
ทั้งนี้ รัฐบาลยังยืนยันว่าสนับสนุนการลงทุนด้านดิจิทัล เพื่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ โดยปัจจุบันประเทศไทยมีกฎหมายที่กำกับดูแลการออกและเสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยโดยตรง คือ พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561 เพื่อคุ้มครองผู้ลงทุน ลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกหรือถูกเอาเปรียบสร้างความชัดเจนในการกำกับดูแลให้ผู้ที่ต้องการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลนี้โดยสุจริตสามารถทำได้ และป้องกันการฟอกเงินหรือใช้สินทรัพย์ดิจิทัลในทางไม่สุจริต และเพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีมาทำให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน หากมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ก็จะมีโทษทางอาญา โดยฐานความผิดและอัตราโทษเทียบเคียงได้กับกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และยังมีการนำบทบัญญัติเกี่ยวกับมาตรการลงโทษทางแพ่งมาบังคับเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายนี้ด้วย
“รัฐบาลมีความห่วงใยเป็นอย่างมาก มีการกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการป้องปรามและเร่งให้ความรู้เกี่ยวกับ กฎหมายและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อความรู้ความเข้าใจ หลีกเลี่ยงไม่ให้เผชิญความเสี่ยงจนเกิดการสูญเสีย รวมทั้งตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ”.