นายมูรธาธร คำบุศย์ เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาร่วมในคดีทุจริตถุงมือยาง ได้ยื่นหนังสือถึงพล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ยึด อายัดทรัพย์สินของนายสุชาติ เตชจักรเสมา อดีตประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) ไว้ระหว่างการไต่สวน และขอให้ตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของนายสุชาติ อันเป็นการป้องกันการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สิน เพื่อมิให้เกิดความเสียหาย หลังป.ป.ช. ได้แจ้งข้อกล่าวหานายสุชาติ กรณีการจัดทำสัญญาซื้อขายถุงมือยางของ อคส. สืบเนื่องมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) จนนำมาสู่การได้ยื่นร้องต่อป.ป.ช. ภายหลังการอภิปรายฯ
หนังสือระบุอีกว่า ข้อเท็จจริงปรากฎพยานหลักฐานหนักแน่นว่า นายสุชาติ เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการจัดทำสัญญาซื้อขายถุงมือยางระหว่างองค์การคลังสินค้ากับบริษัทเอกชนมาตั้งแต่ต้น จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อองค์การคลังสินค้าที่แท้จริง ต่อมานายสุชาติได้แสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ภายหลังพ้นจากตำแหน่งประธานกรรมการ อคส. พบว่ามีจำนวนทรัพย์สินเพิ่มขึ้นกว่า 150 ล้านบาท ในระยะเวลาเพียง 1 ปีเศษ มีทรัพย์สินที่เพิ่มมากอย่างมีนัยยะสำคัญ ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการไต่สวนของคณะกรรมการป.ป.ช. และเพื่อมิให้มีการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินที่อาจเกี่ยวข้องกับกรณีถูกกล่าวหาเรื่องการจัดทำสัญญาซื้อขายถุงมือยางของ อคส. ที่ป.ป.ช.กำลังสอบอยู่ จึงขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ปฏิบัติบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 โดยใช้อำนาจตามมาตรา 34(4) ของกฎหมายดังกล่าว ขอให้ศาลออกหมายเพื่อตรวจสอบ ค้น ยึด หรืออายัดเอกสาร ทรัพย์สิน หรือหลักฐานอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นตามบัญชีแสดงทรัพย์สินหนี้สินที่นายสุชาติยื่นภายหลังการพ้นตำแหน่งประธาน อคส. และขอให้ป.ป.ช.ใช้อำนาจตามมาตรา 38 ดำเนินการขอข้อมูลที่เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินของนายสุชาติจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เพื่อให้ป.ป.ช.ตรวจสอบและประกอบการไต่สวนคดีนี้ด้วย