รองศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้าและที่ปรึกษาสภาร่างรัฐธรรมนูญชุดปัจจุบัน กล่าวถึงกระแสข่าวที่พูดกันในโลกโซเชียนมีเดีย ถึงกรณีที่จะมีการยุบองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) และยกฐานะองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ขึ้นเป็นเทศบาลทั่วประเทศในขณะนี้ว่า เป็นเพียงกระแสข่าวที่แพร่หลายอยู่ในไลน์และมีการแชร์ต่อๆกันไป โดยไม่มีต้นตอว่าใครเป็นคนนำเสนอ
“เราอย่าลืมว่า คำว่าไลน์นั้น มีอยู่ 2 อย่าง คือ Line และ Lie ที่แปลว่าโกหก ข่าวเรื่องยุบ อบจ. โดยจะจัดตั้งเทศบาลจังหวัดขึ้นมาแทนนี้พูดกันมานานแล้ว ตั้งแต่มีการตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติใหม่ๆ แต่ในบรรดาผู้จัดทำร่างรัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้น ผมยืนยันได้ว่า ยังไม่มีใครหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมากล่าวถึงกันเลย”
รองศาสตราจารย์วุฒิสาร กล่าวต่อไปอีกว่า ที่ผ่านมาได้มีการพูดถึงเรื่องโครงสร้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เหมาะสมและความคุ้มค่าในการบริหารจัดการท้องถิ่น นั่นหมายถึงท้องถิ่นที่มีขนาดเล็กเกินไป จำเป็นที่จะต้องมีการควบรวมเข้าด้วยกัน เพื่อทำให้ต้นทุนในการให้บริการประชาชนถูกลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งในอนาคตจำเป็นที่จะต้องพูดถึงเรื่องเหล่านี้
สำหรับโครงสร้างขององคืกรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งปัจจุบันได้แบ่งเป็น อบต. เทศบาล อบจ.และท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ด้วยโครงสร้างนี้จะมีท้องถิ่นแบบ 2 ชั้น ซึ่งเหมาะสมดีอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เพียงแต่จะต้องไปทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องการแบ่งอำนาจและหน้าที่ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น
“อาจจะเป็นปัญหาอยู่บ้างสำหรับท้องถิ่นระดับล่างที่มีขนาดเล็กเกินไป เพราะบางแห่งมีพื้นที่ไม่ถึง 0.5 ตารางกิโลเมตร ทำให้เกิดปัญหาเรื่องงบประมาณและการบริการประชาชนในเรื่องต่างๆ จำเป็นที่จะต้องมีการควบรวมท้องถิ่นขนาดเล็กเข้าด้วยกัน เพื่อให้ท้องถิ่นนั้นๆ มีขนาดใหญ่ขึ้น หรืออาจจะมีช่องทางให้ท้องถิ่นเหล่านั้นสามารถบริหารจัดการปัญหาบางอย่างร่วมกันได้ เช่นเรื่องการศึกษาและเรื่องที่จำเป็นอื่นๆ
“ส่วนกรณีความไม่ชัดเจนในบทบาทหน้าที่ อบจ.นั้น อาจจะต้องพิจารณากันอีกครั้งว่าในเรื่องงบประมาณและบทบาทหน้าที่ของ อบจ. เหมาะสมหรือบกพร่องตรงไหนบ้าง เราจะทำอย่างไรให้สมาชิกสภาจังหวัดสามารถมีมุมมองหรือคิดในเรื่องของยุทธศาสตร์ใหญ่ๆ ระดับจังหวัดได้ อาจจะต้องทำให้เขตเลือกตั้งของสจ.ใหญ่ขึ้น แต่คงเป็นไปได้ยาก เพราะการจะปรับเปลี่ยนอะไร มักจะมีคนขัดขวาง ต่อต้าน อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ เข้าใจว่าสมาชิกสภาขับเคลื่อนประเทศคงจะหยิบยกขึ้นมาพิจารณากันต่อไป” เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวในที่สุด