มอบกรรมสิทธิ์ไถ่ชีวิตโคกระบือเฉลิมพระเกียรติพระพันปีหลวงเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคมเกษตรกรกระบี่ได้รับสิทธิ์ 90 คนคืนลูกตัวที่ 2 และ 3 ให้แล้ว

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 เวลา 11.00 นาฬิกา ที่ศาลาประชาคมอำเภอเหนือคลอง ตำบลเหนือคลอง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานมอบกรรมสิทธิ์และไถ่ชีวิตโค - กระบือ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ตามโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร โครงการพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้กับเกษตรกร จำนวน 3 คน รับมอบโค 4 ตัว ซึ่งเป็นเกษตรกรในพื้นที่อำเภอเหนือคลอง และพื้นที่อำเภอคลองท่อม ที่มีคุณสมบัติถูกต้องตามระเบียบของโครงการดังกล่าว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

โดยมีนายพงษ์พันธ์ ธรรมมา รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ให้เกียรติมาร่วมในพิธีด้วย โอกาสนี้นายปัญญา แววดี ปศุสัตว์จังหวัดกระบี่ ได้กล่าวรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของโครงการว่า จังหวัดกระบี่ทำโครงการดังกล่าวเริ่มวันที่ 1 มกราคม 2565 – 31 ธันวาคม 2565  และนำโค-กระบือไปให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรภายใต้ระเบียบและหลักเกณฑ์ ของโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ ปัจจุบันมีผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมกันบริจาคเงินไถ่ชีวิตโค-กระบือ และบริจาคโคเข้าร่วมโครงการ จำนวน 4 ตัว และบริจาคเป็นเงินจำนวน 37,033 บาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีโค-กระบือไว้ใช้แรงงานและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยกรมปศุสัตว์ได้ทำโครงการมอบกรรมสิทธิ์และไถ่ชีวิตโค-  กระบือ มีเกษตรกรที่อยู่ในสัญญายืมระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี ที่ส่งคืนลูกตัวที่ 1 ให้กับโครงการดังกล่าวแล้ว จะได้รับมอบกรรมสิทธิ์แม่โค-กระบือ และลูกโค-กระบือ ตัวถัดไป จากการดำเนินงานปี 2564 – 2565 ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ได้มอบกรรมสิทธิ์โค-กระบือ จำนวน 90 ตัว คืนลูกตัวที่ 2 , 3 ให้กับเกษตรกรแล้ว

โอกาสนี้นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ได้รับสนองพระราชดำริถือได้ว่าก่อให้เกิดประโยชน์เป็นคุณูปการแก่เกษตรกรเป็นอย่างยิ่ง และยังเป็นที่น่ายินดีที่มีการบูรณาการร่วมกันในพื้นที่อย่างเป็นระบบ สนับสนุนให้มีการรวมกลุ่มเกษตรกรและให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารโครงการ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งและต่อยอดการใช้ประโยชน์เช่น การใช้มูลสัตว์เป็นปุ๋ยในไร่นา การทำแก๊สชีวภาพ ประการสำคัญยังได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินงาน ซึ่งสนองแนวพระราชดำริ ด้านการส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้ จึงขอให้เกษตรที่ได้รับมอบกรรมสิทธิ์โค-กระบือ ในครั้งนี้ นำไปเลี้ยงดูโคให้เป็นอย่างดีเสมือนเป็นสมาชิกในครัวเรือน  และปฏิบัติตามระเบียบหลักเกณฑ์ของโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริอย่างเคร่งครัด

ทีมข่าวกระบี่