พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท เลขาธิการคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยได้กล่าวว่านับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระราชทานความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่ กทม โดยโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ร่วมกับหน่วยงานราชการ ประชาชนและจิตอาสา เข้าสำรวจขุดลอกคูคลองและท่อระบายน้ำที่อุดตันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและป้องกันปัญหาอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและรัฐบาล ขอให้ทุกส่วนร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ทั้งการบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. ให้ใช้เครือข่ายผู้นำชุมชนและศักยภาพของกรุงเทพมหานคร เป็นหลักในการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ สำหรับในพื้นที่ปริมณฑลและในต่างจังหวัดให้รีบเตรียมการไว้ล่วงหน้าสำหรับรองรับปริมาณน้ำที่จะเพิ่มขึ้นในเวลาอันใกล้นี้ ควบคู่ไปกับการหาวิธีการอื่นๆ ที่จะช่วยเสริมหรือแก้ปัญหาอุทกภัยได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยังให้ความสำคัญกับเรื่องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในระดับพื้นที่ โดยกำชับให้ ๓ ส่วนงาน คือ
ศูนย์ดำรงธรรม, กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำพื้นที่ ผนึกกำลังเข้าดูแลในทุกความเดือดร้อนของประชาชนในทุกกลุ่มสาขาอาชีพ โดยได้สั่งการให้เสริมความเข้มแข็งของกลไกดังกล่าวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นทั้งเรื่องบุคลากรและแผนงานต่างๆ ซึ่งจะเป็นการช่วยลดปัญหาให้ยุติลงในระดับพื้นที่และยังช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนไม่ต้องเดินทางมาร้องเรียนในส่วนกลาง ทั้งนี้ ในปัจจุบันการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมในแต่ละสัปดาห์มีประมาณ ๔ – ๖ พันเรื่อง และเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันแก้ไขแล้วคิดเป็นร้อยละ ๙๕ โดยเรื่องที่เหลืออยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยังได้ให้ข้อสังเกตในเรื่องการสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการด้วยมาตรการที่เข้มข้น แต่ขณะเดียวกันผู้กระทำผิดพยายามปรับเปลี่ยนวิธีการและรูปแบบต่างๆ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจพบและจับกุม ล่าสุดมีการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คและระบบรับส่งพัสดุทางไปรษณีย์ในการลักลอบค้ายาเสพติดและอาวุธสงคราม รวมทั้งการจับกุมอาวุธสงครามได้ในพื้นที่ชายแดน แสดงให้เห็นว่ายังคงมีความเคลื่อนไหวในเรื่องการค้าอาวุธอยู่ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
เร่งสืบค้นและขยายผลไปให้ถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งมอบหมายให้ทุกกองทัพภาคดำเนินการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวด้วย สำหรับในพื้นที่ชายแดนได้เน้นย้ำในด่านตรวจต่างๆ มีความรัดกุมในการตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย การตรวจยานพาหนะทุกประเภทไม่เว้นแม้แต่รถของทางราชการหรือรถส่วนบุคคลที่นำป้ายสัญลักษณ์ของทางราชการมาติดเพื่ออำพราง เพื่อให้การสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้กระทำผิดให้มากที่สุด นอกจากนี้ ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเข้มงวดเป็นพิเศษในเรื่องการตรวจสอบแรงงานผิดกฎหมายที่พบว่ายังคงมีขบวนการลักลอบนำแรงงานผิดกฎหมายเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันตก และภาคใต้ โดยให้ตรวจสอบครอบคลุมตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางที่ใช้แรงงานและให้ดำเนินการด้วยความรอบคอบเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย