ขบวนการขนแรงงานต่างด้าวดวงซวยไปไม่รอดขับรถยนต์ติดโคลนบนถนนดอยสูงชันเลียบแนวชายแดนก่อนทหารพรานแสดงตัวสกัดจับได้ยกแก๊งรวบแรงงานเถื่อนเมียนมาได้ 22 คนจับทีมขนได้ 5 คนหนีไป 1 ส่งตัวดำเนินคดี
เมื่อเวลา 01.00 น. ( 16 ก.ย.65 ) พันเอก จักรพงษ์ เทพพันธุ์ ผบ.ฉก.ทพ.35 นำกำลังกองร้อยทหารพรานที่ 3505 พร้อมด้วยฝ่ายที่เกี่ยวข้อง นำกำลังออกลาดตระเวนวางกำลังบนถนนแนวชายแดนไทย-เมียนมา ที่ท้ายหมู่บ้านตีนธาตุ-หมู่บ้านสามหมื่น หมู่ที่ 2 ตำบลสามหมื่น อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก เพื่อป้องกันสกัดจับกลุ่มขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าหัวเมืองชั้นในของไทย
จนเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่พบแสงไฟจากรถจักรยานยนต์ไม่ทราบฝ่ายจำนวน 5 คัน ขับลัดเลาะมาบนเส้นทางภูเขาสูงชันแต่ขับมาด้วยความเร็วและขับแบบชำนานเส้นทางเจ้าหน้าที่จึงวางเครื่องกีดขวางเพื่อจะสกัดตรวจค้นและสามารถสกัดรถจักรยานยนต์จำนวน 5 คันและจับกุมตัวคนขับรถจักรยานยนต์ได้ทั้งหมดทราบชื่อนาย ช่วย ช่วย ไม่มีนามสกุล อายุ 21 ปี 2.นายดับเบิ้ลยู ไม่มีนามสกุล อายุ 28 ปี 3.นายมาโนชญ์ คีรีคำรณ อายุ 28 ปี 4.วันชาติ ไม่มีนามสกุล อายุ 38 ปี และ 5.นายโคล้โพกี้ ไม่มีนามสกุล อายุ 29 ปี โดยผู้ต้องหาทั้งห้าคนเป็นคนอาศัยอยู่ในอำเภอพบพระและอำเภอแม่สอด จังหวัดตากและทั้ง5คนให้การยอมรับสารภาพเนื่องจากจำนนต่อหลักฐานว่าได้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์รวม 7 คนและจำขับรถนำพาไปส่งที่ตัวเมืองตากได้ค่าจ้างหัวละ 3500 บาท แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานกำลังสอบสวนกลุ่มขบวนการชุดแรกซึ่งเป็นทีมรถจักรยานยนต์อยู่นั้นเจ้าหน้าที่การข่าวทหารพรานที่ซุ่มอยู่บนยอดเนินเขาก็ตรวจพบแสงไฟจากรถยนต์จำนวน 1 คันโดยรถคันดังกล่าวขับติดกองโคลนดินเหนียวบนถนนเจ้าหน้าที่จึงปลอมตัวจะเข้าไปตรวจสอบและทำทีเป็นพลเมืองดีจะเข้าไปช่วยเหลือแต่คนขับรถยนต์กระบะได้ไหวตัววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ารกทึบเจ้าหน้าที่ออกติดตามค้นหาตัวแต่ไม่พบตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดติดโคลนกลางถนนสายสุดโหดและตรวจสอบภายในรถและท้ายกระบะรถยนต์คันดังกล่าวพบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจำนวน 15 คนพร้อมกระเป๋าเดินทางคนละหนึ่งใบนั่งและนอนอัดแน่นเป็นปลากระป๋องอยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าวโดยแรงงานทั้งหมดยอมให้เจ้าหน้าที่จับกุมเนื่องจากไม่รู้จะวิ่งหลบหนีไปทางไหนเจ้าหน้าที่จึงควบคุมแรงงานต่างด้าวรวมแล้วจำนวน 22 คนพร้อมคนนำพาทั้งหมดไปสอบสวนอย่างละเอียดที่ฐานทหารพราน 3505
จากการสอบสวนซึ่งหนึ่งในแรงงานต่างด้าวรับสารภาพว่าได้มีนายหน้าไม่ทราบชื่อเรียกค่านำพาหัวละ 20000-25000 บาท แลกกับการช่วยเหลือกลุ่มแรงงานผิดกฎหมายของตนเองทั้งหมดช่วยพาลักลอบข้ามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ผ่านมาทางเรือหางยาวข้ามแม่น้ำเมยมาขึ้นฝั่งไทยก่อนจะมีนายหน้าอีกชุดขับรถจักรยานยนต์และรถยนต์มารับจะไปส่งที่จังหวัดตากแล้วจะมีรถยนต์มารับอีกทอดหนึ่งเพื่อไปส่งปลายทางที่กรุงเทพ แต่ระหว่างทางฝนตกหนักรถจักรยานยนต์สามารถขับผ่านได้ก่อนส่วนรถยนต์ติดโคลนคนขับรถยนต์ไหวตัวหลบหนีจนเจ้าหน้าที่ทหารพรานมาจับได้ทั้งหมด ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้นำตัวคนนำพาพร้อมแรงงานต่างด้าวทั้งหมดส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
ทีมข่าว จ.ตาก