ผู้ปกครอง 50 กว่า คนเดือดตั้งขบวนแห่ไล่ ผอ.โรงเรียน แห่งหนึ่งเหตุบริหารงานไม่โป่งใส ขีดเส้นตายวันพรุ่งนี้ห้ามให้เห็นหน้าอีก ถ้าไม่อย่างนั้นจะมีการเคลื่อนไหวเข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการต่อไป
วันนี้ 20 ก.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.พังตรุ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี มีชาวบ้านผู้ปกครองนักเรียนประมาณ 50 กว่าคน รวมตัวกันร้องเรียนเพื่อขับไล่ผู้อำนวยการให้พ้นจากโรงเรียน โดยมีการชูป้ายขับไล่ระบุข้อความว่า ผอ.ออกไป ผอ.ไม่ไปนักเรียนไม่มา ไม่เอา ผอ.คนนี้ และมีการพูดออกลำโพงกล่าวเรื่องการทำงานของผู้อำนวยการโรงเรียนอย่างเข้มข้น
บรรยากาศเต็มไปด้วยความไม่พอใจของผู้ปกครองต่างตะโกนขับไล่ ผอ.คนดังกล่าวโดย นายฑรัท เหลืองสะอาด นายอำเภอท่าม่วง มอบหมายให้ นายวัชร รุ่งโรจน์วณิชย์ ปลัดฝ่ายความมั่นคง นำกำลัง อส.ร่วมกับ ร.ต.ท.สมจิตร ห้วยกรุด หน.จุดตรวจเขาคันหอก สภ.สำรอง นายนิพัฒน์ เชิดชู กำนันตำบลพังตรุ อำนวยการความสงบเรียบร้อย ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนแห่งนี้ ได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียน ที่สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 1 แล้ว เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมและความโปร่งใส และความต้องการของผู้ปกครอง เรื่องที่ 1 คือเรื่องกรรมการของสถานศึกษาโรงเรียนมีใครบ้าง เสียชีวิตไปแล้วไปแล้วกี่คน ลาออกกี่คน ข้อที่ 2 เรื่องของการจัดการแข่งขันกีฬา สีมีการไปขอรับบริจาคเงินเข้ามา ซึ่งเงินบริจาคทางผู้ปกครอบไม่เห็นว่ามีใบเสร็จหรือไม่ หรือเงินเข้าในส่วนกลางหรือไม่ชาวบ้านแค่อยากจะมาดูว่ามันมีจริงไหม แล้วได้นำไปใช้อะไรบ้าง เพราะนอกจากการใช้ในการจัดกิจกรรมกีฬาสีแล้ว ยังมีการไปขอรับบริจาคเพื่อซื้อชุดกีฬาให้กับนักเรียนด้วย และข้อที่ 3 ทาง ผอ.โรงเรียน
ไม่ได้เข้ากับชุมชนเลยถึงแม้จะไม่ได้บังคับให้เข้ามาร่วมกับชุมชน แต่มนุษย์สัมพันธ์แล้วก็จิตสำนึกของผู้บริหารสถานศึกษาต้องร่วมกันชุมชน และก็ประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวของชุมชนแต่ทาง ผอ.ปฏิเสธการที่จะให้จัดประเพณีนี้ขึ้น อาทิ เช่นประเพณีลอยกระทง ซึ่งเราให้ความสำคัญกับเด็กนักเรียนและชุมชนด้วยเพราะถือว่าเป็นหน้าตาของชุมชนได้เลย ในครั้งนี้ ผอ.สพป.กจ เขต 1 รับเรื่องและรับปากจะพิจารณาตรวจสอบขอเวลาหนึ่งสัปดาห์ และนัดชี้แจงในวันนี้ (20 ก.ย.65) แต่ก็ทราบว่าจะมีการเลื่อนเวลาเป็นช่วงบ่าย ทำให้ผู้ปกครองไม่พอใจ
นางภรทิพย์ ศิริสมบูรณ์ อายุ 33 ปี ผู้ปกครองและในฐานะศิษย์เก่าโรงเรียนแห่งนี้ กล่าวว่า ตั้งแต่ ผอ.คนนี้ย้ายมาประมาณเกือบจะ 3 ปี แล้วโรงเรียนไม่มีการพัฒนาขึ้น โรงเรียนแต่เดิม นักเรียนที่นี่จะเรียนดีและกีฬาต้องเด่น ไม่เคยตก 1 ใน 3 ของกีฬากลุ่ม จะต้องติด 1 ใน 3 ตลอด จะต้องได้ถ้วยรวมและมีชื่อเสียง ตั้งแต่ ผอ.คนนี้มา ชื่อเสียงไม่มี มีแต่ชื่อเสีย ชาวบ้านผู้ปกครองนินทา เข้ากับชาวบ้านไม่ได้ ตั้งแต่กีฬาสีที่ผ่านมา และกีฬากลุ่มเป็นอะไรที่แย่มาก ขนาดขบวนพาเหรด ชุดเก่ามาก ถึงจะไม่ได้มีการประกวดแต่ปีหนึ่งจัดแค่หนเดียวมันเป็นหน้าเป็นตาของโรงเรียน ไหนว่าทางโรงเรียนขอทุนไปแล้วบอกว่าเป็นทุนสนับสนุนให้กับการกีฬาให้กับเด็กแต่ทำไมชุดวิ่งแข่งชุดกีฬา ถ้าไม่สปอนเซอร์มาให้จะไม่มีให้นักเรียนเลยเหรอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากได้มีการเรียกร้องของ ผู้ปกครองโรงเรียนแห่งนี้ ได้มีการติดต่อไปยัง ผอ.โรงเรียน เพื่อให้มาทำการพูดคุยกับชาวบ้านแต่ได้รับการ
แจ้งว่า ผอ.ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลด่วน ต่อมา ดร.สมหมาย เทียนสมใจ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 1 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ ผอ.คนดังกล่าว เดินทางพบกับผู้ปกครองเพื่อชี้แจ้งข้อสงสัยของกลุ่มชาวบ้านทั้งหมดที่ได้ไปยื่นหนังสือเมื่อครั้งก่อนนั้นและนำ จนท.ตรวจสอบการเงิน มาร่วมชี้แจงและได้ตกลงกับผู้ปกครองว่าจะมีการย้าย ผอ.คนดังกล่าวให้ไปช่วยราชการ ที่ สพป.กาญจนบุรี เขต 1 ก่อน เพื่อลดแรงกดดันจากกลุ่มผู้ปกครอง ส่วนจะให้มีการย้าย ผอ.คนนี้หรือไม่นั้น ต้องรอให้คณะกรรมการสถานศึกษาจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการได้
ดร.สมหมาย เทียนสมใจ ผอ.สพป.กาญจนบุรี เขต 1 เปิดเผยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดเกิดจากปัญหาของการบริหารงาน ของผู้บริหารกับชุมชน เบื้องต้นได้คุย กับทาง ผอ.โรงเรียนคนดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่า ผอ.โรงเรียนเข้าโรงพยาบาล แต่รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็ได้มอบให้กับครูการเงินโรงเรียน ซึ่งการเงินโรงเรียนก็ได้ชี้แจงในที่ประชุมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็จะนำเอาหลักฐานทั้งหมดนำเข้าคณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อชี้แจงประเด็นที่เกี่ยวข้องให้กับกรรมสถานศึกษาได้รับทราบว่ามีเรื่องอะไรบ้าง ส่วนการแก้ปัญหาในยะระยาวต้องแก้ปัญหาในการบริหารงานบุคคลซึ่งในองค์คณะบุคคลจะเป็นผู้พิจารณาโดยการนำเสนอของตนในฐานะผู้บังคับบัญชาเบื้องต้น ก็จะขอนำเรียนคณะกรรมสถานศึกษาจังหวัดให้พิจราณาประเด็นนี้ โดยอาจจะต้องหาวิธีทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับตำแหน่งของ ผอ.โรงเรียน อีกทีหนึ่ง ซึ่งตรงนี้เป็นช่วงที่กำลังจะเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อจะให้ ผอ.โรงเรียน ที่อยู่ในช่วงของการรักษาตัว ได้ชี้แจงประเด็นที่เกี่ยวข้องเป็นลายลักษณ์อักษร
หลังจากนั้นพอได้ลายลักษณ์อักษรแล้ววิธีการแก้ปัญหาก็คือการใช้ระเบียงการบริหารงานบุคคล ค.ก.ษ ได้พูดถึงไว้ว่ากรณีนี้จะมีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร ผู้บังคับบัญชาเองก็จะขอปฏิบัติตามแนวปฏิบัติของ ค.ก.ษ ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชาได้ตกลงกันในการแก้ปัญหาร่วมกัน เพราะว่าการสื่อสารในเบื้องต้นก็ถือว่ามีข้อสรุปที่ชัดเจนและในช่วงต่อไปเป็นหน้าที่ของตนเองในฐานะผู้บังคับบัญชาเป็นผู้รับผิดชอบในประเด็นต่อไป
ทั้งนี้ภายหลังจากมีการชี้แจงจาก ผอ.สพป.กาญจนบุรี เขต 1 ทางกลุ่มผู้ปกครองโรงเรียนก็ยอมรับในข้อตกลง โดยได้ตัวแทนผู้ปกครองโรงเรียนได้ระบุว่า ตอนนี้ข้อเรียกร้องเยอะแยะมากมายที่ชาวบ้านอยากจะถาม แต่เมื่อถามไปคำตอบกลับไม่ได้อย่างที่ชาวบ้านต้องการแต่ข้อเรียกร้องข้อเดียวของชาวบ้านคือ ผอ.โรงเรียนแห่งนี้ต้องย้ายไปที่อื่นทันทีนั้นคือ สิ่งที่ชาวบ้านที่นี่เรียกร้องกัน และถ้า ผอ.สพป.กาญจนบุรี เขต 1 ไม่ปฏิบัติตามคำตกลงระหว่างชาวบ้านกับโรงเรียน กับ ผอ. จะมีการเคลื่อนไหวไปถึงนายกรัฐมนตรี แม้กระทั้งรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการเพราะเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และถ้า ผอ.ยังมาปฏิบัติหน้าที่จะเกิดอะไรขึ้น ตัวแทน ผู้ปกครองกล่าวทิ้งท้าย จากนั้นผู้ปกครองได้แยกย้ายกันกลับบ้านไป
ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี