นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ คนที่ 1 กล่าวถึงข้อเสนอของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่มีความเห็นให้เซ็ตซีโร่ กกต. ว่า ความเห็นดังกล่าวยังไม่ใช่ข้อยุติ และขอให้การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในวันที่ 9 มิถุนายน ตั้งอยู่บนกรอบของรัฐธรรมนูญ หลักความเป็นธรรมและแม้ผลการพิจารณาของ สนช. จะออกมาอย่างไร แต่หากยังไม่มีความเห็นต่าง โดยเฉพาะ กกต. ไม่เห็นด้วย ก็ยังสามารถตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมาพิจารณาได้
อย่างไรก็ตาม เห็นว่า การกำหนดคุณสมบัติไว้สูง เพราะต้องการแก้ปัญหาทุจริตเลือกตั้ง และขอให้ทุกฝ่ายพิจารณาด้วยว่า กกต. ต้องรับภารกิจสำคัญ จึงต้องหาคนที่มีคุณสมบัติเพรียบพร้อม ซื่อสัตย์ มีประสิทธิภาพ ยึดหลัก นิติรัฐนิติธรรม
นอกจากนี้ นายอลงกรณ์ ยังกล่าวถึงข้อเสนอของ สปท.เกี่ยวกับกฎหมายลูก กกต. ไม่ได้ลงรายละเอียดว่าให้เซ็ตซีโร่ กกต. แต่เสนอให้ ยึดหลักการ ไม่ได้ยึดตัวบุคคล เพราะแต่ละองค์กรมีความคาดหวังเรื่องปฏิรูปประเทศแตกต่างกัน และเห็นว่าองค์กรอิสระไม่ควรใช้มาตรฐานเดียวกัน เพราะไม่สามารถตัดเสื้อตัวเดียวให้ทุกคนใส่ได้
นายอลงกรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการส่งแผนปฏิรูป ว่า ได้ดำเนินการส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วไม่ต่ำกว่า 150 เรื่อง ขณะนี้กำลังเร่งพิจารณา วาระเร่งด่วน 27 วาระ 42 เรื่องและกฎหมาย 36 ฉบับ ที่จะต้องดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนหมดวาระ
ส่วนกระแสเรียกร้องให้ พรรคประชาธิปัตย์ กปปส.ร่วมมือกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อต่อต้านระบอบทักษิณ ว่า พรรคการเมืองต่างๆ ต้องเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง การจับกลุ่มเป็นเรื่องของพรรคไม่มีใครกำหนดได้ แต่สิ่งสำคัญ คือ การสร้างบรรยากาศกลับคืนสู่การเลือกตั้ง และควรปฏิรูปตัวเอง การจับมือกัน ไม่ใช่เพื่อประโยชน์เฉพาะกลุ่ม การเลือกตั้งที่จะมาถึงมีความสำคัญกับประเทศ จึงอยากให้ทุกภาคส่วน เตรียมรับการปฏิรูปแล้วเดินหน้าเพื่อส่วนรวม
สำหรับการจะรวมตัวกันตั้งรัฐบาลนั้น ขณะนี้ยังเร็วเกินไป พร้อมเสนอให้ นปช. กลับมารวมกับพรรคเพื่อไทย ดังเช่น กปปส. ที่กลับมารวมกับประชาธิปัตย์ เพื่อใช้เวทีรัฐสภาในการแก้ปัญหาและไม่ต้องไปเดินขบวนอีก