เมื่อ วันที่ 25 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 153 บ้านใจดิ หมู่ 11 ต.ใจดี อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากที่ทราบว่า คนที่เป็นชาวต่างชาติฟ้อนรำอย่างสนุกสนาน รำได้ถูกจังหวะทุกกระบวนท่าอย่างสวยงาม ซึ่งได้เผยแพร่ในโลกโซเซียล ไปถึงบ้านดังกล่าวได้พบกับ นายสก็อต สไปเวย์ อายุ 36 ปี ชาวสหรัฐอเมริกา และ น.ส.จันทิมา อันทร์วัน อายุ 30 ปี ผู้เป็นภรรยา ซึ่งนายสก็อตพูดไทยได้นิดหน่อย ส่วนใหญ่จะพูดภาษาอังกฤษก็ให้ น.ส.จันทิมาแปลให้ตอนสัมภาษณ์ นายสก็อตนำพานใส่พระเครื่องหลายสิบองค์มาให้ผู้สื่อได้ดูด้วย เพื่อยืนยันว่าเขาเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาจริง โดยเขามีย่ามที่ปักชื่อของ หลวงปู่บุญหลาย (เทวดาเมตตา) หรือพระครูสังฆรักษ์บัณฑิต ภูริปญโญ วัดบ้านปุดเนียม ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ ที่เขาเคารพนับถืออยู่ข้างตัวตลอดเวลา
นายสก็อต เล่าว่า ตนเคยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นมาก่อน ก็ได้กราบไหว้พระสงฆ์ตั้งแต่ที่นั้น พอมาอยู่เมืองไทยเป็นครูสอนบัลเลด์อยู่ที่จังหวัดชลบุรีเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก็ได้รู้จักกับภรรยาซึ่งทำงานเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อแล้วเราก็ต่างงานกัน ตอนนี้มีลูกสาวด้วยกัน 1 คนอายุ 3 ขวบ พอได้ลูกสาวก็พากันกลับมาอยู่บ้านที่ อ.ขุขันธ์ ตนก็ไปสอนบัลเลด์ที่ จ.อุบลราชธานี และสอนภาษาอังกฤษด้วย ตนจะปักหลักอยู่เมืองไทยกับภรรยาและลูกสาวตลอดไป
นายสก็อต กล่าวต่อว่า การที่ตนเป็นครูสอนบัลเลด์ก็มีความชอบทางด้านศิลปะการเต้นรำการฟ้อนรำอยู่ในใจมีความชอบอยู่ในสมองอยู่แล้ว พอที่อำเภอมีงาน รำลึกพระยาไกรภักดี ประเพณีแซนโฎนตา บูชาหลักเมือง ลื่อเลื่องกล้วยแสนหวี มีคนมาชวนให้ไปร่วมรำในงานตนจึงตกลงไปร่วมฝึกซ้อมด้วย โดยซ้อมกันแค่ 2-3 วันก็ได้ไปรำในงานอย่างที่เห็น
“ตอนนี้ ตนจะว่างจากการสอน เวลาหลวงปู่บุญหลาย ซึ่งเป็นพระที่ตนเคารพนับถือจะไปกิจนิมนต์ตามที่ต่างๆ หรือไปต่างจังหวัดก็จะชวนตนไป ตนก็ไปกับหลวงปู่บ่อยๆ จึงทำให้ได้สัมผัสใกล้ชิดกับพระเกจิอาจารย์ ได้รับรสพระธรรมมากขึ้น” นายสก็อต กล่าว
ด้าน นางนิภาพร อินทร์วัน อายุ 60 ปีแม่ของ น.ส.จันทิมา กล่าวว่า ตนดีใจที่ลูกเขยซึ่งเป็นชาวต่างชาติมารักและชื่นชอบในวัฒนธรรมประเพณีของชาวอีสานเรา และการที่ลูกไปฟ้อนรำในงานประเพณีของอำเภอก็รู้สึกภูมิใจในตัวลูกเขย.
ทีมข่าวศรีสะเกษ