นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล คบจ. ดีเด่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยสามารถขับเคลื่อนและส่งผ่านนโยบายของกระทรวงการคลังและนโยบายของรัฐบาลลงสู่กลุ่มเป้าหมายและประชาชนในส่วนภูมิภาค รวมถึงเป็นการเชิดชูเกียรติยศให้กับ คบจ. ที่มีผลงานดีเด่น
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยภายหลังพิธีมอบรางวัลคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด หรือ คบจ. ดีเด่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ว่า กรมบัญชีกลางจัดงานมอบรางวัล คบจ. ดีเด่น เป็นประจำทุกปีมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานมอบรางวัล ในวันจันทร์ที่ 26 กันยายน 2565 ณ ห้อง Grand Ballroom ชั้น 4 โรงแรม มิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร เป็นการมอบรางวัลให้แก่คณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด ประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงาน
ในกำกับของกระทรวงการคลังในส่วนภูมิภาค โดยมีคลังจังหวัดเป็นประธาน ด้วยการทำงานแบบบูรณาการในนามกระทรวงการคลังทั้งในส่วนของภารกิจหน่วยงานและภารกิจเชิงพื้นที่ไว้ด้วยกัน โดยมุ่งหวังแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่เป็นหลัก ซึ่งเป็นการนำนโยบายของกระทรวงการคลังสู่การปฏิบัติทั่วทั้งภูมิภาคจนเกิดผลเป็นรูปธรรม เช่น การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจฐานราก การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ การจัดทำโครงการจากพื้นที่โดยสอดรับกับยุทธศาสตร์ของจังหวัด และการเพิ่มประสิทธิภาพการคลังท้องถิ่น ตลอดจนให้การสนับสนุนการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัด ในการบริหารราชการแบบบูรณาการ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยการขับเคลื่อนของทีมเฉพาะกิจวายุภักษ์เพื่อการแปลงยุทธศาสตร์กระทรวงการคลังสู่ภูมิภาค ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน หัวหน้าหน่วยงาน ในสังกัดกระทรวงการคลัง ผู้แทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นกรรมการ และมีที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง กรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการและเลขานุการ
นางภัทรพร วรทรัพย์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง กรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ทีมเฉพาะกิจวายุภักษ์เพื่อการแปลงยุทธศาสตร์กระทรวงการคลังสู่ภูมิภาค ได้สนับสนุนและติดตามการทำงานของ คบจ. เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลไปในทิศทางเดียวกัน โดยกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาการประเมินผลการดำเนินงานหน่วยงานภายใน คบจ. เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติงานด้านการเงินการคลังของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจใน คบจ. ให้มีประสิทธิภาพ โดยมีเกณฑ์การพิจารณา 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านนโยบาย
การดำเนินงานที่สอดรับกับนโยบายรัฐบาล/กระทรวงการคลัง (Top down/ Agenda Based) 2) ด้านนโยบายการดำเนินงานที่สอดรับกับยุทธศาสตร์จังหวัด หรือความต้องการของพื้นที่ (Area Based) และ 3) งานตามภารกิจหลัก (Function Based) ของหน่วยงาน
ซึ่งจากเกณฑ์การพิจารณา คบจ. ดีเด่น แสดงให้เห็นว่าสามารถดำเนินภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถดำเนินนโยบายรัฐบาลต่าง ๆ ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ จึงเห็นสมควรมอบรางวัลเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและขวัญกำลังใจแก่ คบจ. ที่มีผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ผ่านเกณฑ์การประเมิน คบจ. ดีเด่น แบ่งรางวัลเป็น 2 ประเภท ได้แก่ รางวัล คบจ. ดีเด่น และรางวัลพิเศษเฉพาะด้านเพิ่มเติม และมี คบจ. ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 25 คบจ. ได้แก่ รางวัลที่ 1 จำนวน 2 จังหวัด คือ คบจ. ชัยนาท และขอนแก่น รางวัลที่ 3 จำนวน 1 จังหวัด คือ คบจ. ภูเก็ต รางวัลที่ 4 จำนวน 10 จังหวัด คือ คบจ. ลพบุรี ระยอง หนองคาย แพร่ ลำปาง พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย อุทัยธานี และปัตตานี
และรางวัลพิเศษเฉพาะด้านเพิ่มเติม จำนวน 12 จังหวัด คือ คบจ. สงขลา ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี ปราจีนบุรี ชัยภูมิ นครพนม เลย อุดรธานี และเพชรบุรี
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวในตอนท้ายว่า การมอบรางวัลในครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและสร้างความเข้มแข็งทางการเงินการคลังให้แก่ คบจ. รวมทั้งเผยแพร่บทบาทและหน้าที่ของ คบจ. ให้หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และสาธารณชนได้รับทราบ เพื่อเป็นต้นแบบการปฏิบัติงานให้กับ คบจ. อื่น ๆ นำไปประพฤติปฏิบัติตาม เนื่องจาก คบจ. เป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงการคลังและรัฐบาลลงสู่ภูมิภาค และเป็นกลไกในการบริหารงานของส่วนราชการ รวมทั้งสามารถบริหารจัดการการใช้จ่ายเงินของส่วนราชการให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนสูงสุด