นายชาคร กล่าวว่า จากสถานการณ์ผู้ก่อการร้ายก่อเหตุวางระเบิดจนมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ถือว่าเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่สร้างความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินเป็นอย่างมาก

          ในส่วนของรัฐบาลไทย ได้แสดงความห่วงใย และเสียใจต่อเหตุที่เกิดขึ้นไปแล้ว สำหรับเมืองพัทยาเองหลังเกิดเหตุก็ได้มีการสนธิกำลังทุกภาคส่วนในการตรวจสอบพื้นที่สุ่มเสี่ยง เช่น สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ โรงมหรสพ ห้างสรรพสินค้า สถานที่ราชการ และจุดที่มีผู้คนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมากอย่างเข้มงวด และมีความถี่มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการสร้างความอบอุ่นใจ แม้ว่าประเทศไทยจะไม่มีปัญหาความขัดแย้งกับผู้ใดก็ตาม

          ทั้งนี้ เพื่อตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท และก็ขอให้ประชาชนอย่าได้หวาดวิตกต่อสถานการณ์มากนัก เพียงแต่เพิ่มความระมัดระวังในการตรวจสอบบุคคล และสิ่งของต้องสงสัยเท่านั้น โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในส่วนปกครอง ตำรวจ และทหารคอยหาข่าว เฝ้าระวัง และดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม.

          ด้าน นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า สำหรับเมืองพัทยา ที่ผ่านมาก็มีมาตรการในการป้องกันด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว เพราะถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และเป็นนโยบายหลักที่ปฏิบัติอย่างเข้มข้นตามมาตรฐานของเมืองท่องเที่ยว ที่สำคัญปัจจุบันมีการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดหรือ CCTV จำนวน 1,000 กว่าจุด ครอบคลุมในทุกพื้นที่ รวมทั้งจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการประชาสัมพันธ์ ตรวจสอบ และเฝ้าดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมรับการประสานในทุกกรณีจากประชาชนผ่านทาง Call Center 1337 อีกด้วย

          ขณะที่ นายสินไชย วัฒนศาสตร์สาธร นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางรัฐบาลมีนโยบายประสานงานร่วมกับผู้ประกอบการเพื่อป้องกันเหตุ และตรวจสอบข้อมูลของนักท่องเที่ยวที่เข้าพักอยู่แล้ว เช่น การกำหนดมาตรฐานที่ต้องติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด หรือ CCTV หรือการแจ้งข้อมูลสำคัญผ่านไปยังด่าน ตม.ชลบุรี

          อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่เมืองพัทยา จากการสำรวจล่าสุดพบว่า มีสถานประกอบการโรงแรมมากกว่า 2,600 แห่ง หรือห้องพักกว่า 1.2 แสนห้อง โดยในส่วนนี้จะมีโรงแรมที่อยู่ในสังกัดสมาคมฯ หรือขออนุญาตถูกต้องเพียง 200-300 แห่งเท่านั้น ขณะที่เหลือยังไม่ได้เข้ากฎเกณฑ์ที่รัฐกำหนด ซึ่งกรณีนี้อาจเป็นพื้นที่สำคัญที่บุคคลผู้ไม่หวังดีไปกบดานเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงควรเพิ่มมาตรการในการตรวจสอบให้มีความละเอียดมากขึ้นด้วย