“คมนาคม”เปิดให้บริการรถเมล์ไฟฟ้าอีก 2 สาย สาย 17 และ สาย 82 เชื่อมบริการรถ ราง เรือ ผุดไอเดียออกตั๋วพิเศษเดินทางวันละ 40 บาท ตั้งเป้าคนไทยได้ใช้รถพลังงานสะอาด 1,250 คันภายในปี 65
30 ก.ย. 2565 – นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เป็นประธานเปิดให้บริการเดินรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 17 (4-3) เส้นทางพระประแดง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสาย 82 (4-15) ท่าน้ำพระประแดง-บางลำพู ของบริษัท ไทย สมายล์ บัสจำกัด ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการเดินรถจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ภายใต้คอนเซ็ปต์ Seamless Connected Society เชื่อมโยงทุกการเดินทางอย่างไร้รอยต่อ เพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการรถโดยสารสาธารณะอันจะทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า สำหรับทั้ง 2 เส้นทางที่เปิดให้บริการในครั้งนี้นั้น โดยใช้รถโดยสารพลังงานไฟฟ้านำมาให้บริการเบื้องต้นจำนวนรวม 20 คัน แบ่งเป็นสาย 17 จำนวน 5 คัน และ สาย 82 จำนวน 15 คัน จากนั้นทยอยเพิ่มจำนวนรถอีกในวันที่ 5 ต.ค.นี้ ตนจะเปิดให้บริการเป็นครั้งที่ 3 ด้วย อย่างไรก็ตาม ไทย สมายล์ บัส จะเร่งรัดดำเนินการในปีนี้จะมีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าเพิ่มเป็น 972 คัน ใน 77 เส้นทาง
อย่างไรก็ตาม โดยรถที่นำมาให้บริการนี้ ผู้โดยสารจะได้รับความสะดวก สบาย และปลอดภัยในการเดินทาง เพราะเป็นรถเมล์ไฟฟ้าที่มีพลังงานสะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) นอกจากนี้จะมีระบบความปลอดภัยในภายในรถจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV จำนวน 6 จุด เพื่อเฝ้าระวังติดตามการป้องกันการก่อเหตุอาชญากรรม และการทะเลาวิวาท เพื่อติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป รวมทั้งอนาคต ไทย สมายล์ บัส ยังได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นที่ชื่อ TSB GO ที่เพิ่มความสะดวกในการเดินทาง เช่น สามารถตรวจสอบตำแหน่งรถอีกกี่นาทีรถมาถึง และดูว่าในรถคันนั้นมีผู้โดยสารกี่คัน เหลือที่นั่งอีกกี่คัน เพื่อวางแผนในการเดินทางมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้ประกอบการบริหารจัดการความถี่เดินรถได้ด้วย
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ส่วนอัตราค่าโดยสารยังคงเก็บในราคา 15-20-25 บาทตามระยะทาง โดยจะจำหน่ายบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (อีทิกเก็ต) ด้วย ซึ่งบัตรดังกล่าวเมื่อนำมาใช้จ่ายค่าโดยสารรถเมล์ของไทย สมายล์ บัสไม่ว่าจะสายใดก็ตาม ครบ 40 บาทแล้ว ภายใน 1 วันนั้น หากผู้โดยสารใช้บริการรถเมล์ของไทย สมายล์ บัส อีก ก็ไม่ต้องจ่ายค่ารถเมล์เพิ่มแล้ว เท่ากันว่าใน 1 เดือน จะจ่ายค่าโดยสารแค่ 1,200 บาท เท่านั้น ส่วนกรณีผู้พิการจะจ่ายค่าโดยสาร 20 บาทต่อวัน หรือประมาณ 600 บาทต่อเดือนเท่านั้น