สมอ. เปิดโผรายชื่อมาตรฐาน มอก. ปี 2566 ทั้งกำหนดใหม่ และเก่าที่ต้องทบทวน จำนวน 620 เรื่อง เน้นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาล ยานยนต์ไฟฟ้า ดิจิทัล นวัตกรรม ระบบขนส่งทางราง เชื้อเพลิงชีวภาพ เครื่องมือแพทย์ และเกษตรอัจฉริยะ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้เร่งรัดให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) จัดทำแผนการกำหนดมาตรฐานในปีงบประมาณ 2566 โดยเร็วโดยให้สอดคล้องตามแผนแม่บทการกำหนดมาตรฐานระยะ 5 ปี (พ.ศ.2565-2569) ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) หรือบอร์ด สมอ. แล้ว ซึ่งตามแผนแม่บทการกำหนดมาตรฐานปีงบประมาณ 2566 สมอ. จะต้องกำหนดมาตรฐานไม่น้อยกว่า 425 เรื่อง และผมได้รับรายงานว่า การประชุมบอร์ด สมอ. เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา บอร์ดได้เห็นชอบแผนการกำหนดมาตรฐานของ สมอ. ในปีงบประมาณ 2566 แล้ว จำนวน 620 เรื่อง ซึ่งมากกว่าที่แผนกำหนดไว้ 195 เรื่อง ครอบคลุมตามกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาล และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 แผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ รวมทั้งแนวโน้มทิศทางของมาตรฐานและกฎระเบียบระหว่างประเทศ ตลอดจนความต้องการของภาคอุตสาหกรรม
นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนการกำหนดมาตรฐานของ สมอ. ในปีงบประมาณ 2566 จำนวน 620 เรื่อง เป็นมาตรฐานกำหนดใหม่จำนวน 501 เรื่อง ครอบคลุมมาตรฐานกลุ่มอุตสาหกรรมเอสเคิร์ฟ จำนวน 52 เรื่อง นิวเอสเคิร์ฟ จำนวน 70 เรื่อง กลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ๆ จำนวน 84 เรื่อง มาตรฐานเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ จำนวน 283 เรื่อง และมาตรฐานตามนโยบายอีก 12 เรื่อง เช่น โดรนสำหรับเกษตรอัจฉริยะ เครื่องฆ่าเชื้อด้วย ยูวีซี ท่อเข็มเหล็กกล้าไร้สนิมสำหรับการผลิตเครื่องมือแพทย์ ถังเก็บน้ำพลาสติกยับยั้งแบคทีเรีย เครื่องแปลงขยะเศษอาหารและเศษวัชพืชโดยใช้จุลินทรีย์ หลอดพลาสติกชีวภาพ คอมพาวด์กัญชง เครื่องยึดเหนี่ยวราง (Rail Fastener) ชุดชิ้นส่วนสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง ยางปิดช่องว่างระหว่างชานชาลากับขบวนรถขนส่งทางราง ภาชนะพลาสติกพอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลตเรซินแปรใช้ใหม่สำหรับบรรจุน้ำบริโภค รถพยาบาล หุ่นยนต์เคลื่อนที่ขนส่งสิ่งของในสถานพยาบาล และหุ่นยนต์ช่วยดูแลผู้ป่วยในสถานพยาบาล เป็นต้น และมาตรฐานเดิมที่นำมาทบทวนใหม่อีกจำนวน 119 เรื่อง เพื่อให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับเทคโนโลยีการผลิตในปัจจุบัน เนื่องจากใช้มาเกิน 5 ปี เช่น สายไฟฟ้าอะลูมิเนียม สีพ่นยานยนต์ หมอนคอนกรีตอัดแรง ท่อยางและท่อพลาสติก ฟองน้ำลาเท็กซ์สำหรับทำหมอนและที่นอน น้ำยาประสานท่อพีวีซีแข็งและข้อต่อท่อพีวีซีแข็ง น้ำยางคอมพาวด์เคลือบผ้าปูสระกักเก็บน้ำ กระเบื้องพีวีซีปูพื้น แคลเซียมคาร์บอเนตสำหรับอุตสาหกรรมยาง ผงซักฟอก ขวดนมพลาสติก สีเทียน สายต่อใช้ในทางการแพทย์
ฟิล์มพลาสติกโพลิไวนิลคลอไรด์สำหรับงานเกษตรกรรม ข้อต่อสำหรับเครื่องมือแพทย์ใช้กับหลอดเลือดหรือใต้ผิวหนัง กระบอกฉีดยาผ่านใต้ผิวหนังปราศจากเชื้อชนิดใช้ครั้งเดียว เข็มฉีดยาชนิดใช้ครั้งเดียว ขวดยาแก้ว และหลอดยาฉีด เป็นต้น
ด้าน นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวว่า “หลังจากนี้ สมอ. จะดำเนินการกำหนดมาตรฐานให้เป็นไปตามแผนฯ ที่กำหนดไว้โดยเร็วทั้ง 620 เรื่อง ที่เป็นมาตรฐานกำหนดใหม่จำนวน 501 เรื่อง และมาตรฐานเดิมที่นำมาทบทวนใหม่อีก 119 เรื่อง เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรม และคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้า ทั้งนี้ หากสินค้าใดส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน สมอ. ในฐานะหน่วยงานด้านการมาตรฐานแห่งชาติ จะเร่งรัดดำเนินการจัดทำมาตรฐาน และทำการตรวจสอบรับรอง เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจ ว่าจะได้ใช้สินค้าที่มีมาตรฐานและปลอดภัย” เลขาธิการ สมอ. กล่าว