พิธีบวงสรวง ก่อนนำเรือลงซ้อมในแม่น้ำยมของแต่ละหมู่บ้านในตำบลเวียงทอง ซึ่งทั้ง 12 หมู่ทำพิธีพร้อมกัน ในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 แต่บางหมู่บ้านก็ไม่ได้ทำพิธีอะไรมากเพียงไหว้ขอขมา แล้วลงซ้อมเลย

   ทางด้านนายท้ายเรือ เผยเหตุเรือล่มเพราะการพายเรือยังไม่เข้าทางกันทำให้ตัองซ้อมกันเร็วทั้งที่รู้ว่าน้ำไหลแรง แต่ลูกทีมก็ยังยืนยันขอซ้อมเพื่อดูช่องทางพายเรือก่อนแข่ง

     อดีตกำนันเผยจุดเกิดเหตุเคยเป็นวัดเก่าก่อนถูกน้ำพัดถล่มลงไปกลางน้ำหลังจากหลายหน่วยงานร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ทำการออกค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือล่มขณะซ้อมพายก่อนลงแข่งในงานประเพณีของหมู่บ้าน ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ก็ยังไร้วี่แวว ยังไม่พบร่างผู้สูญหายทั้ง 2 คน และระดับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ต้องประชุมร่วมกันและตัดสินใจยุติการค้นหา ในเวลา 17.00 น. โดยจะเรื่มออกค้นหาอีกครั้งในวันรุ่งขึ้นเวลา 07.00 น

   เบื้องต้นทางครอบครัวผู้สูญหายทั้ง 2 คนได้ทำพิธีโยนหมอนตามความเชื่อว่าหากเกิดเหตุจมน้ำให้นำหมอนของผู้ที่จมน้ำโยนลงไปหมอนจะลอยไปหาเจ้าของเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และไปขอให้พระนับถือดูยามให้ตามความเชื่อว่าตอนนี้ทั้ง 2 คนติดอยู่ที่ไหนแล้วจะเจอเมื่อไหร่ 
   นายดาม จินดาคำ อายุ 46 ปี นายท้ายเรือ เผยว่า  เมื่อวานนี้ขณะที่เรือล่มเป็นการซ้อมรอบที่2 ขณะเกิดเหตุ ก็ลงเรือและพายทวนน้ำขึ้นไปเรื่อยๆ  จนไปใกล้กับจุดสตาร์ท และพายลงมาเพื่อดูแนวเส้นทาง แต่เรือเกิดคว่ำก็พยายามประคับประคองมาเรื่อย ๆ แต่ด้วยกระแสน้ำแรงไม่สามารถดึงเรือไว้ได้ จนถึงทางโค้งแล้วตนเองรู้สึกเริ่มเป็นตะคริวไม่ไหวจึงสละเรือกับเพื่อนร่วมทีมอีก 2 คน เหลือน้องที่เกาะที่เรืออีก 8 คน จนมาถึงสะพาน เรือก็ชนกับตอม่อและมาทราบอีกทีว่าน้องหายไป 2 คน ก็พากันตามหาที่ข้างฝั่งคิดว่าน่าจะว่ายน้ำขึ้นมาไม่คิดว่าน้องจะจมน้ำ ซึ่งปกติทุกครั้งก่อนจะมีการแข่งขันก็จะพากันมาฝึกแบบนี้แต่น้ำไม่เยอะขนาดนี้ ตอนแรกจะซ้อมที่ริมน้ำ แต่เด็กๆ ในทีมอยากลองดูแนวการพายเรือก็ชวนกันไปกลางน้ำ และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นก็รู้สึกเสียใจ

    นายพินิจ สันป่าเป่า อดีตกำนันตำบลเวียงทอง เล่าว่า บริเวณที่เรือล่มจนฝีพายตกน้ำนั้น ช่วงเหนือสะพานขึ้นไปเคยเป็นวัดทองเกศเก่า สมัยนั้นเมื่อปี 2538 นั้นเกิดน้ำท่วมใหญ่น้ำกัดเซาะตลิ่งพังลงไป ทำให้โบสถ์ทรุดตัวลงไปในน้ำ ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิของชาวตำบลเวียงทอง เหตุที่ว่าเรือมาล่มจุดนี้นั้น เป็นอุบัติเหตุ หรือเจ้าที่เจ้าทาง ก็ไม่ทราบแน่ชัดได้ จุดนั้นเองก็เป็นจุดวังน้ำวนอันตรายอยู่แล้ว  ซึ่งโดยปกติแล้ว หากจะมีการนำเรือลงจะต้องมีการทำพิธีบวงสรวงก่อนทั้งสถานที่ แม่ย่านาง ก่อนนำเรือลง เรือทุกลำจะมีของเส้นไหว้อยู่หัวเรือขอให้เจ้าที่เจ้าทางปกปักษ์รักษา ทุกหมู่บ้านต้องทำ เพราะมันเป็นสิ้งที่เรามองไม่เห็น เป็นประเพณีโบราณที่สืบสานกันมา ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นก็ถือเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากการนักกีฬาเหนื่อยจากการซ้อม แล้วตกน้ำทำให้ไม่มีแรง

     นางพจนา แสงโชค  แม่ของนายชญากานต์ หรือ ตาม กล่าวว่า ตนและครอบครัวได้เข้าไปถามพระที่วัดหาดลี่ว่าลูกของตนนั้นอยู่ที่ไหน และเป็นอย่างไรบ้าง ท่านบอกว่าทั้งสองไม่ได้ไปไหนไกลวนอยู่บริเวณน้ำวน ไกลที่สุด ไม่เกินสะพานบ้านหาดลี่ ทั้งคู่นั้นอยู่ไม่ไกลกัน น้องตามนั้นลงแข่งเรือมาหลายปีแล้ว ลงแข่งตั้งแต่อายุยี่สิบกว่า ลงทุกปีที่มีการจัดแข่งขัน เวลาซ้อมนั้นเป็นปกติอยู่แล้วที่เรือล่ม แต่ทุกทีที่ผ่านมานั้นน้ำตื้น วันเกิดเกตุนั้นตนไม่เห็นเหตุการณ์ เพียงแต่มีคนโทรบอกว่าลูกจมน้ำ ปีนี้นั้นลูกของตนพึงมาซ้อมวันแรก แต่ทางทีมนั้นซ้อมกันตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

ทีมข่าว จ. แพร่