กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. และคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ รอง ผกก.1 บก.ปทส พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ร่วมกันจับกุม นายบุญคุ้ม (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 1/2565 ลงวันที่ 14 มกราคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ” ที่ ลานจอดรถสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งบริเวณ ถนนติวานนท์ ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณ พ.ศ.2548 ถึงปี พ.ศ.2550 นายบุญคุ้ม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี ใช้ชื่อผู้อื่นในการซื้อและยื่นซองประกวดราคาโครงการจัดซื้อจัดจ้างของ อบต. ทั้งที่ไม่ได้ประกอบอาชีพนั้นโดยตรง ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 152 และ 157 ประกอบมาตรา 90, 91 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 12 ประกอบ ป.อ. มาตรา 86 และ 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2562
โดยเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 พิพากษาว่า นายบุญคุ้ม มีความผิดตามมาตรา 91, 152 ลงโทษจำคุกกระทงละ 1 ปี รวม 22 กระทง เป็นจำคุก 22 ปี เมื่อรวมโทษ ทุกกระทงตามมาตรา 91 (2) แล้ว มีกำหนดลงโทษ 20 ปี ซึ่งนายบุญคุ้ม ได้ประกันตัวในระหว่างพิจารณาคดี และไม่มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ทราบว่า นายบุญคุ้ม หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี จึงได้ไปตรวจสอบ เฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นนายบุญคุ้มฯ นั่งรถยนต์ออกมาจากบ้านพัก จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม และควบคุมตัวส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ดำเนินคดี