เขื่อนป่าชลสิทธิ์ น้ำเกินความจุ ทะลุ 105.64 เปอร์เซ็นต์ เร่งปรับเพิ่มการระบายน้ำ เนื่องจากยังคงมีน้ำเหนือจากเพชรบูรณ์ไหลเข้าสู่เขื่อนจำนวนมาก
ซึ่งจากภามมุมสูง เหนือเขื่อนป่าชลสิทธิ์ ในขณะที่ จะเห็นได้ว่ามีปริมาณน้ำเต็มเขื่อนป่าชลสิทธิ์แล้ว เนื่องจากที่ผ่านมามีปริมาณน้ำเหนือจากจังหวัดเพชรบูรณ์ ไหลเข้าสูงเขื่อนเป็นจำนวนมาก โดยปริมาณน้ำล่าสุดวันนี้ อยู่ที่ 1014.15 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 105.64 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเกินความจุ ที่ระดับกักเก็บปกติของเขื่อน ที่ 960 ล้านลูกบาศก์เมตรไปแล้ว และยังมีน้ำไหลเข้าสูงเขื่อนอีกเป็นจำนวนมาก โดยปริมาณน้ำไหลเข้าวันนี้ อยู่ที่ 1525.25 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือ 131.78 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ล่าสุด นายชูพงศ์ อิศรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้ รักษาการผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ ได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด ตามประกาศ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เรื่อง เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำปาสัก ทั้งนี้ จากการคาดการณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าในช่วงวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 9 ตุลาคม 2565 ยังคงมีอิทธิพลจากร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ประเมินฝนคาดการณ์ ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนปาสักชลสิทธิ์ แห่งนี้ อีก ประมาณ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร กรมชลประทานจำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำ โดยการปรับเพิ่มการระบายน้ำ เพื่อควบคุมปริมาณน้ำในเขื่อนปาสักชลสิทธิ์ ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อรักษาเสถียรความมั่นคงของตัวเขื่อน โดยได้เริ่มทยอยปรับเพิ่มแบบขั้นบันได จากอัตรา 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตั้งแต่เมื่อวานนี้ แล้วนะครับ มาเป็นอัตรา 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในช่วงบ่ายของวันนี้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดต่อทรัพย์สินของประชาชนจากการที่ระดับน้ำ ในแม่น้ำปาสัก ตั้งแต่ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ถึงเขื่อนพระรามหก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน ประมาณ 40 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร จึงขอแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้รับทราบ และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ส่วนที่ คลองชลประทานชัยนาท ป่าสัก ซึ่งรับน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ผ่านประตูมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท แล้วไหลผ่านอำเภอบ้านหมี่ และ อำเภอเมืองลพบุรี ตามแผนการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ขณะนี้ ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นรวดเร็ว 50-60 เซนติเมตร เนื่องจากมีการระบายน้ำจากทุ่งรับน้ำของอำเภอบ้านหมี่ และอำเภอเมืองลพบุรี ลงสู่คลองชัยนาทป่าสัก จนเกิดน้ำล้นตลิ่งในบางจุด ซึ่งสำนักงานชลประทานที่ 10 ได้เร่งว่างแนวกระสอบทราย และเสริมคันดินในพื้นที่จุดเสียง ให้สูงขึ้นอีก 1 เมตร ป้องกันน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัดลพบุรี
ขณะที่ นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ โดยมีการระดมเครื่องสูบน้ำ จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระบายน้ำออกจากพื้นที่ซึ่งมีน้ำท่วมสูง ลงสู่ คลองชัยนาท-ป่าสัก เพื่อลดความเดือดร้อนให้กับประชาชน
ทีมข่าวลพบุรี