พายุเนสารท ถล่มกาญจน์แล้ว ชาวบ้านบอกอยู่มากว่า 30 ปี เพิ่งเจอฝนหนักมากครั้งนี้ ถนนหลายสายถูกน้ำจากเทือกเขา และลำห้วยแตกไหลท่วมข้ามถนน ฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนระวัง
พายุฝนเนสารท ถล่มพื้นที่กาญจน์ พัดรถจักรยานยนต์ตกจมน้ำ 3 คัน โชคดี ผู้ขับขี่ปลอดภัย ถนนหลายสายถูกน้ำจากเทือกเขา และลำห้วยแตกไหลท่วมข้ามถนน เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนระวัง เนื่องจากถนนหลายสายเกิดมีน้ำไหลผ่านข้ามถนนระดับน้ำสูงบางแห่งไม่สามารถผ่านได้ต้องรอให้น้ำลดลงก่อน
วันนี้ 09 10 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาแล้ว “พายุเนสารท” ถล่มในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งทางกรมอุตุฯ ได้ออกประกาศแจ้งเตือนให้ทุกภาคระวังพายุ “เนสารท” จะมุ่งเข้าสู่ประเทศไทย ตั่งแต่ 09 – 14 ต.ค. 65 และในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับผลจากพายุ “เนสารท” ตั่งแต่ช่วงเที่ยงของวันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่เขตอำเภอ เมือง อำเภอบ่อพลอย และอำเภอพนมทวน ได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าวอย่างหนักฝนได้ตกลงมาประมาณ 2 ชั่วโมง ทำให้พื้นที่เมือง ถนนสายกาญจนบุรี - ศรีสวัสดิ์ มีลำห้วยแตก ทำให้น้ำไหลท่วมถนนสายดังกล่าวรถไม่สามารถผ่านไปได้ ต้องกลับรถไปรอให้น้ำได้ที่ไหลเชี่ยวลดแรงลงก่อน โดยใช้เวลาพักรถอยู่หลายชั่วโมง จึงเดินทางผ่านได้ต่อไป โดยบริเวณถนนสายกาญจนบุรี - บ่อพลอย ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 16 - 17 ระหว่างโค้งบ้านเขาดินสอ อำเภอบ่อพลอย ซึ่งจุดนี้ได้มีรถจักรยานยนต์ที่ขับผ่าน เจอคันพนังกั้นริมถนนพังทำให้น้ำแตกไหลเชี่ยวรุนแรง ความสูงของระดับน้ำเกือบมิดเอว พัดเอารถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน ถูกกระแสน้ำพัดจมหายไปกับน้ำ แต่โชคดีผู้ขับขี่ไม่ได้รับอันตรายใดๆ เพียงแค่บาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงบ่อพลอย ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยบ่อพลอย ร่วมกันนำรถจักรยานยนต์ทั้ง 3 คัน ขึ้นจากน้ำได้ทั้งหมดแล้ว แต่รถได้รับความเสียหายจากน้ำเข้าเครื่องไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนในพื้นที่อำเภอพนมทวน มีถนนสายรองเกิดน้ำจากเทือกเขาไหลท่วมหลายจุดรถไม่สามารถผ่านไปได้เช่นกัน
นายนันทวัฒน์ มาพัว หรือกี้ นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิกกาญจนบุรี ได้ขับรถจากบ้านในตำบลหนองรี เพื่อนไปเรียนในเช้าวันจันทร์ ผ่านบริเวณโค้งบ้านเขาดินสอ แจ้งว่าตนเอง ขับรถมาอยู่ๆ คันพนังกั้นน้ำจากข้างทางได้พังลงมาขณะที่ตนเองจะผ่านจนถูกกระแสน้ำสูงประมาณกว่า 1 เมตร พัดจนตนเองได้ถูกน้ำพัดตกไปข้างทาง จนมีชาวบ้านใกล้เคียงออกมาช่วยเหลือตนเองไว้ได้ ส่วนรถถูกกระแสน้ำพัดไปไกลกว่า 5 เมตร ก่อนได้นำขึ้นมาได้ แต่ได้รับความเสียหายจากน้ำเข้าเครื่อง
ส่วน นายสมจิต บัวทอง อายุ 52 ปี เจ้าบ้านเลขที่ 36 หมู่ที่ 9 ตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี แจ้งว่าตนอยู่บริเวณนี้มากว่า 30 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้ ฝนที่ตกลงมาประมาณ 2 ชั่วโมง จนทำให้คันพนังกั้นน้ำริมถนนบ้านเขาดินสอ พังลงมาจนทำให้น้ำไหลเข้าบ้านสูงถึงเอว กระแสน้ำทำให้ประตูบ้านถูกกระแสน้ำพัดพังหลุดไปกับกระแสน้ำหายไปทั้งบาน
นายวันเฉลิม จันทร์เมือง หัวหน้าแขวงทางหลวงบ่อพลอย ได้ลงพื้นที่เฝ้าติดตามกระแสน้ำ พร้อมกับ ทางสมาคมมูลนิธิบ่อพลอย เพื่อจัดการจารจร ให้ผู้ใช้รถใช้ถนน ได้แล่นผ่านกระแสน้ำจุดดังกล่าว โดยหัวหน้าแขวงทางหลวงบ่อพลอย ฝากแจ้งเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากน้ำที่ไหลรุนแรงจนทำให้ผิวการจารจรพังเสียหาย ระดับน้ำบางจุดสูง ขอให้ดูป้ายเตือนที่ทางแขวงได้นำไปติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ที่เกิดมีน้ำไหลข้ามถนน เพื่อความปลอดภัย เพราน้ำที่ไหลผ่านต่างกับน้ำที่ขังบนผิวถนน เนื่องจากน้ำไหลอาจพัดพารถให้ตกไปกับกระแสน้ำได้./
ทีมข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์