ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
นิพิฎฐ์เปิดตัว3ขุนพลพัทลุงพรรคสร้างอนาคตไทย
12 ต.ค. 2565

พรรคสร้างอนาคตไทยลงพื้นที่เปิดตัวผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดพัทลุง นำโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคและประธานภาคใต้

สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง 3 คน ได้แก่ นายเอกภัทร ภัทร์รัศมี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 1 ว่าที่ ร.ต.พลกฤษณ์ คล้ายวิตภัทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 2 และนายวัฒนา เรืองแก้ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3

นายนิพิฏฐ์ กล่าวเปิดการประชุม ว่า สิ่งที่ตนจะพูดต่อไปนี้ คือ พันธกรณี เป็นสัญญาที่ตกลงกันไว้ในทางการเมือง ตนออกจากพรรคประชาธิปัตย์มา จะไม่พูดว่าออกมาเพราะอะไร แต่ตนคิดว่า ที่นี่ (พรรคสร้างอนาคตไทย) ตนได้ถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ ตนเปลี่ยนเจ้านายใหม่แล้ว ตนเป็นนักรบที่จะไม่แตกทัพ ไม่สู้ก็คือไม่สู้ ถ้าอาจารย์สมคิดสะบัดธงไปทางไหน หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคสะบัดธงไปทางไหน ตนสู้ไปทางนั้น ถ้าบอกว่าหยุดก็คือหยุด ถ้าบอกว่า ยกธงขาวว่า แพ้ ก็คือ แพ้ ไม่มีแตกทัพ ถ้าผมตายในสนามรบ อาจารย์สมคิดต้องนำศพผมผมกลับบ้านเท่านั้น

นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า พันธกรณีที่ละเมิดไม่ได้ ข้อที่หนึ่ง พรรคนี้ตั้งขึ้นมายึดมั่นและศรัทธาการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เราไม่ละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ข้อที่สอง เราไม่สุดขั้วในทางการเมือง ถ้าท่านคิดว่าจะสละความขัดแย้ง ทิ้งความขัดแย้ง ไม่สร้างมรดกความขัดแย้งให้กับลูกหลายในอนาคต ตนกราบท่านทั้งหลายมาร่วมกับ สอท. และข้อที่สาม สอท.จะแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นหลัก แก้ปัญหาเศรษฐกิจ 3 ข้อนี้ คือ คำมั่นสัญญาในการก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย

นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า เวลาตนมาจัดการเลือกตั้งในภาคใต้ พี่น้องพัทลุงบ่นเยอะว่า ตนเรื่องมาก ตนพยายามเลือกผู้สมัครที่ดีที่สุดให้กับประชาชน หลายคนบอกว่า ทำไม่ไม่เอาคนนั้นคนนี้มา ตนก็มีลูก จบเมืองนอกทุกคน แต่ในสนามการเมืองของพัทลุง เมื่อตนยังมีชีวิตอยู่ ไม่มีอินทรสมบัติในการเลือกตั้ง ตนไม่เอา ยกเว้นพ่อจะตายเสียก่อน เว้นแต่จะวางมือเสียก่อน

“ตั้งแต่จังหวัดชุมพรไปยะลา นราธิวาส มันเป็นการผูกขาดทางการเมืองของพรรคการเมืองบางพรรค พัทลุงก็เช่นเดียวกัน เมื่อก่อนเราบอกว่า เราจะเป็นนักการเมืองหิ้วกระเป๋าใบเดียว วันนี้หิ้ว 2 กระเป๋ามาที่ภาคใต้ มาที่พัทลุงทั้งนั้น การเมืองปักษ์ใต้เปลี่ยนไปจาก 20 30 ปีที่แล้ว ภาคกลางมีบ้านใหญ่ ภาคตะวันออกมีบ้านใหญ่ เราเคยไม่สนับสนุนบ้านใหญ่ให้ครองอำนาจในภาคใต้ วันนี้บ้านใหญ่ทั้งนั้น ถูกปิดโอกาส ผมจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นในภาคใต้ในจังหวัดภาคใต้และในจังหวัดพัทลุง”นายนิพิฏฐ์กล่าวและว่า

“ปลดปล่อยภาคใต้ ปลดปล่อยพัทลุง ด้วยมือของเราเอง ถ้าไม่ปล่อยวันนี้ ภาคใต้ 14 จังหวัด ทั้งคนพัทลุง ท่านมีอาชีพเดียว คือ อาชีพหัวคะแนนให้บ้านใหญ่ ให้ตะกูลนักการเมืองเป็นผู้แทนฯ เราเป็นได้แค่เพียงหัวคะแนน ท่านต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นนักการเมืองเสียเองด้วย”นายนิพิฏฐ์กล่าว

นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า สิ่งที่คนปักษ์ใต้ได้รับวันนี้ จังหวัดพัทลุงจนอยู่ในลำดับต้น ๆ ของภาคใต้ เราต้องทำภาคใต้ให้หายจน เป็นเวลาที่เราจะสลัดความขัดแย้ง สลัดความผูกขาดทั้งหลาย มาแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน พัทลุงเปลี่ยนอย่างเดียวไม่ได้ ไม่มีพลัง อย่าเลือก ไม่มีประโยชน์ อย่าเลือกคนเดียว ไม่มีพลัง ถ้าท่านจะเลือกเพื่อเศรษฐกิจปากท้องของคนใต้ ต้องเปลี่ยนทั้งภาค ทั้ง 58 คน ลองเลือกพรรคสร้างอนาคตไทย 4 ปี ถ้าทำไม่ได้ ค่อยเปลี่ยนใหม่

“เคมีของพรรคสร้างอนาคตไทย กับเคมีพรรคประชาธิปัตย์ใกล้เคียงกัน เคมีภาคใต้ไม่สอดคล้องกับพรรคเพื่อไทย แต่สอดคล้องและต้องกันพรรคประชาธิปัตย์ แต่ถ้าคิดว่าประชาธิปัตย์ ไปไม่ได้ พรรคพลังประชารัฐไปไม่ได้ ไม่มีความหวัง เมื่อเคมีเราตรงกัน อยากให้ท่านมีความรู้สึกว่า เรานี่แหละจะมาแทนที่พรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้”

นายนิพิฏฐ์กล้าวว่า ถึงเวลาที่เราต้องทบทวน กวาดล้างความสกปรกในประเทศนี้ในบางเรื่อง วันดีคืนดีอาจจมีคนบ้ายาบ้า ยาเสพติดมาเคาะประตูที่บ้านท่าน นี่คือมรดกอัปลักษณ์ของรัฐบาลนี้ที่ทิ้งไว้ให้พรรคสร้างอนาคตไทยต้องมาแก้ไข มีที่ไหน ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขไปยืนแจกต้นกัญชาให้กับประชาชน แต่ต้องกลับมารักษาผู้ติดยาเสพติดที่ผู้บริหารประเทศนี้สร้างไว้ ใช้ไม่ได้ ต้องล้างมรดกนี้ เราจะกำหนดนโยบาย 1 อำเภอ 1 ศูนย์บำบัดยาเสพติดให้โทษเพื่อรักษาลูกหลานท่าน

 “สงครามครั้งสุดท้ายของผม ครั้งสุดท้ายจริง ๆ ขอให้พี่น้องใจแข็ง เปลี่ยนอีกสักครั้งหนึ่งเพื่ออนาคตของพี่น้องคนภาคใต้ให้คนพัทลุง พี่น้องคนภาคใต้มาร่วมกับพรรคสร้างอนาคตไทย สร้างอนาคตพัทลุงไปด้วยกัน”นายนิพิฏฐ์กล่าว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...