พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มสโมสร ส.ส. ที่มี อดีต ส.ส. กว่า 50 คน ได้นัดพบปะสังสรรค์ รับประทานอาหารว่า ยังไม่สามารถทำได้ ซึ่งหากรับประทานอาหารธรรมดาก็ไม่เป็นไร และการนัดสังสรรค์ในครั้งต่อไปก็ไม่สามารถกระทำได้หากเป็นการพูดคุยในเรื่องทางการเมือง เนื่องจากต้องการให้หยุดเคลื่อนไหวก่อนในช่วงนี้ ส่วนจะสนับสนุนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ให้ไปแสดงความคิดเห็นผ่านคำถาม 4 ข้อของนายกรัฐมนตรี พร้อมยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ปลดล็อกให้พรรคการเมืองออกมาเคลื่อนไหวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่มีหนังสือเวียนราชการแจ้งเตือน การก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดกระบี่ พังงา และภูเก็ตว่า ส่วนตัวยังไม่เห็นข้อมูลในเรื่องนี้ โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังได้ระบุว่า ไม่มีการแจ้งเตือนในเรื่องดังกล่าว พร้อมยืนยันว่า มีมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยทั่วประเทศมากพอสมควร ส่วนความคืบหน้าเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้านั้น ขณะนี้ได้มีการติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องและค่อนข้างมั่นใจว่าจะได้ตัวผู้กระทำความผิด ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในโรงพยาบาลแต่อย่างใด
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตแกนนำ กปปส. และ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุถึงการซื้อขายตำแหน่งตำรวจ ในระดับรองผู้บัญชาการลงมา และส่วนใหญ่เป็นการจ่ายเงินโดยไม่ได้รับตำแหน่ง ว่า ไม่มีหากมีขอให้นำตัวมา ส่วนตัวมั่นใจว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาทำทุกอย่างตามขั้นตอน ส่วนการซื้อขายตำแหน่งทำอย่างไรนั้น ส่วนตัวไม่ทราบ และยังนึกไม่ออก เพราะเมื่อมีการเสนอตำแหน่งขึ้นมา สุดท้ายจะอยู่ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็มีสิทธิ์ในการแก้ไข ดังนั้นทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณี รายงานขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่พบว่า เป็นประเทศที่อันตรายสำหรับนักท่องเที่ยว มากที่สุดซึ่งไทยอยู่ในลำดับที่ 19 จาก 20 ประเทศว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นเรื่องเก่าที่ ได้มีการสำรวจไว้นานแล้ว โดยเบื้องต้นกระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำหนังสือทักท้วงไปยังเวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม เรียบร้อยแล้ว