ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
ครม.เคาะ 6.67 พันลบ.สร้างสะพานข้ามทะเล 2 แห่ง
18 ต.ค. 2565

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้กรมทางหลวงชนบทดำเนินงานก่อสร้างโครงการสะพานข้ามทะเล 2 แห่ง วงเงิน 6,695 ล้านบาท ประกอบก้วย โครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา-อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง และ โครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา ตำบลเกาะกลาง-ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่
ทั้งนี้ โครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา มีระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี ตั้งแต่ปี 66-68 วงเงิน 4,841 ล้านบาท เป็นค่าก่อสร้าง 4,700 ล้านบาท และค่าจ้างควบคุมงานก่อสร้าง 141 ล้านบาท โดยในส่วนของค่าก่อสร้าง 4,700 ล้านบาท ให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ อัตราส่วนของแหล่งเงินกู้และเงินงบประมาณเป็น 70:30 สัดส่วนเงินกู้คิดเป็นวงเงิน 3,290 ล้านบาท และสัดส่วนเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีวงเงิน 1,410 ล้านบาท ส่วนค่าจ้างควบคุมงาน 141 ล้านบาท ให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป

อย่างไรก็ตาม ครม.ได้กำชับว่าการดำเนินโครงการก่อสร้างจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากพื้นที่โครงการอยู่ใกล้เขตพื้นที่ห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลหลวงซึ่งห่างจากบริเวณพื้นที่โครงการประมาณ 6 กม. และเป็นบริเวณที่มีการกำหนดเป็นเขตคุ้มครองโลมาอิรวดี ซึ่งในประเด็นนี้ธนาคารโลกซึ่งจะเป็นผู้ให้กู้ตามโครงการนี้ได้แสดงความห่วงใยมาเช่นเดียวกัน โดยกระทรวงการคลังจะมีการประสานกับธนาคารโลกและหน่วยงานต่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อมในการกำหนดแนวทางป้องกันผลจากโครงการก่อสร้างไม่ให้กระทบสัตว์ที่ต้องได้รับการคุ้มครองต่อไป

ประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา จะช่วยลดระยะทางในการเดินทางระหว่างอำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา-อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง จาก 80 กิโลเมตร เป็น 7 กิโลเมตร และลดระยะเวลาในการเดินทางจาก 2 ชั่วโมง เป็น 15 นาที ช่วยพัฒนาเส้นทางการขนส่งโลจิสติกส์ และเส้นทางท่องเที่ยวสายใหม่ เชื่อมโยงทะเลอันดามัน-อ่าวไทย เชื่อม 3 จังหวัด คือตรัง-พัทลุง-สงขลา ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่โดยรอบทะเลสาบสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง ช่วยบรรเทาปริมาณจราจรของถนนทางหลวงและแก้ปัญหาการจราจรที่ติดขัด ช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทางและในกรณีเกิดภัยพิบัติสามารถอพยพประชาชนในพื้นที่ได้รวดเร็วทันการณ์ และยังช่วย สนับสนุนและอำนวยความสะดวกด้านพาณิชยกรรม อุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยว พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและการบริการโลจิสติกส์ในพื้นที่
ส่วนโครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา ตำบลเกาะกลาง-ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ มีระยะทาง 2.2 กม. (ความยาวสะพาน 1.92 กม. และความยาวถนนต่อเชื่อม 280 เมตร) ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี ตั้งแต่ปี 66-68 ในวงเงินรวมทั้งสิ้น 1,854 ล้านบาท เป็นค่าก่อสร้าง 1,800 ล้านบาท และค่าจ้างควบคุมงานก่อสร้าง 54 ล้านบาท โดยในส่วนของวงเงินค่าก่อสร้าง 1,800 ล้านบาท ให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ อัตราส่วนของแหล่งเงินกู้และเงินงบประมาณเป็น 70:30 คิดเป็นเงินกู้วงเงิน 1,260 ล้านบาท และสัดส่วนเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี วงเงิน 540 ล้านบาท ส่วนค่าจ้างควบคุมงาน 54 ล้านบาท ให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป

สำหรับเหตุผลในการก่อสร้างโครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตาเนื่องจากปัจจุบันการเดินทางระหว่างแผ่นดินใหญ่ ตำบลเกาะกลางและเกาะลันตา อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ จะต้องผ่านทางหลวงหมายเลข 4206 สู่บ้านหัวหิน ซึ่งเป็นจุดลงแพขนานยนต์ไปยังเกาะลันตาน้อย แม้จะมีระยะทางเพียง 1.53 กิโลเมตร แต่เนื่องจากแพขนานยนต์สามารถบรรทุกรถยนต์ได้น้อยทำให้เกิดปัญหาความล่าช้า ผู้โดยสารจะต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือมากกว่าในการเดินทาง ประกอบกับในบางช่วงเวลาจะมีปัญหาเรื่องระดับน้ำทะเลที่ขึ้นลงตามธรรมชาติซึ่งเป็นอุปสรรคของแพขนานยนต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และนับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา กระทรวงคมนาคมได้เปิดให้บริการสะพานสิริลันตา เพื่อรองรับการเดินทางระหว่างเกาะลันตาน้อยและเกาะลันตาใหญ่แล้ว ดังนั้นโครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตาจะช่วยบรรเทาปริมาณการจราจรของถนนทางหลวง แก้ไขปัญหาการจราจรที่ล่าช้าบริเวณท่าแพขนานยนต์ พัฒนาและยกระดับมาตรฐานทางหลวงชนบทเพื่อเชื่อมโยงต่อเติมโครงข่ายการคมนาคมและการขนส่ง แก้ไขปัญหาการจราจรด้วยการสร้างทางเชื่อม (Missing Link) ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่และกระจายความเจริญสู่ท้องถิ่นและภูมิภาค

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา คือ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง ลดระยะเวลาการเดินทาง จากการเดินทางด้วยแพขนานยนต์ซึ่งจะใช้เวลา 2 ชั่วโมง ขณะที่การใช้สะพานจะลดเวลาเหลือเพียง 2 นาที ช่วยเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมและการขนส่งให้เกิดความสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ลดระยะทางการเดินทางระหว่างอำเภอคลองท่อม และอำเภอเกาะ ลันตาน้อย จังหวัดกระบี่ ช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทาง และกรณีเกิดภัยพิบัติสามารถอพยพประชาชนในพื้นที่ได้รวดเร็วทันการณ์ ช่วยสนับสนุนและอำนวยความสะดวกด้านพาณิชยกรรม การบริการและการท่องเที่ยวระหว่างเกาะลันตาและแผ่นดินใหญ่ รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและการบริการโลจิสติกส์ในพื้นที่

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...