นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือกับนายกสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย สมาคมเมล็ดพันธุ์พืชภาคพื้นเอเซียและแปซิฟิค ถึงการขับเคลื่อนและต่อยอดประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำเมล็ดพันธุ์พืชผักเขตร้อนคุณภาพสูง ซึ่งจากการประชุม APEC ระดับสูงด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตร เดินหน้าตามนโยบายนายกรัฐมนตรีขับเคลื่อนเทคโนโลยีชีวภาพระดับสูงร่วมกับเทคโนโลยีการเกษตรและการผลิต ประเทศไทยให้ความสำคัญกับความสำเร็จของ BCG Economy Models ตลอดจนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนสู่เป้าหมายความมั่นคงด้านอาหารปี 2030 การขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์รองรับการเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ของภูมิภาคเศรษฐกิจ APEC ที่จะนำไปสู่ ผู้นำเมล็ดพันธุ์พืชผักเขตร้อนคุณภาพสูง ต้องเกิดความร่วมมือระหว่างกรมวิชาการเกษตร ภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขับเคลื่อนให้เมล็ดพันธุ์ไทยสู่สากล โดยพัฒนาระบบการผลิตเมล็ดพันธุ์พืช สนับสนุนให้เกษตรกรได้ใช้พันธุ์พืชใหม่ๆ ที่ดีมีคุณภาพ ตรงตามมาตรฐานในราคาที่เหมาะสม ตั้งเป้าขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชผักเขตร้อนคุณภาพสูง มูลค่า 15,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตร ร่วมมือกับสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทยและภาคเอกชนอื่นๆ พัฒนาบุคลากรด้านการตรวจสอบคุณภาพเมล็ดพันธุ์และการตรวจสอบสุขอนามัยเมล็ดพันธุ์ที่เป็นส่วนสำคัญในการผลิตและการส่งออกเมล็ดพันธุ์รองรับการเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ เชื่อว่าผลจากการประชุมจะทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ช่วยผลักดันด้านการค้าและการลงทุน ในยุคสังคมดิจิทัล เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เกษตรกรและเพิ่มความมั่นคงด้านอาหาร เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำเมล็ดพันธุ์พืชผักเขตร้อนคุณภาพสูง