รมช.สินิตย์ ให้แนวคิดกรมพัฒน์ฯ ใช้โมเดลแฟรนไชส์สร้างความเข้มแข็งแบบคู่ขนาน ‘สร้างความแข็งแกร่ง สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศ พร้อมสร้างงาน-สร้างอาชีพ-สร้างรายได้ให้ประชาชน’ สั่งการเร่งเตรียมแผนสร้างความเข้มแข็งธุรกิจแฟรนไชส์ทันที...หลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบเมื่อ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา เชื่อ!! ภาคธุรกิจจะช่วยเหลือภาคประชาชนได้ ภาครัฐต้องส่งเสริมสนับสนุนภาคธุรกิจให้มีความเข้มแข็ง..มั่นคงก่อน ถึงจะช่วยประชาชนให้ยืนหยัดมั่งคงในอาชีพและชีวิตได้
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ได้ให้แนวคิดการทำงานแก่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเรื่องการสร้างความเข้มแข็งภาคธุรกิจ หลังเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะธุรกิจแฟรนไชส์ที่กระทรวงพาณิชย์ใช้เป็นโมเดลสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ให้เน้นการสร้างความเข้มแข็งแบบคู่ขนาน คือ สร้างความมั่นคงให้ประชาชนมีงาน มีอาชีพ มีรายได้ พร้อมทั้ง สร้างความแข็งแกร่ง สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศ ทั้งนี้ การที่ภาคธุรกิจจะช่วยเหลือภาคประชาชนได้ ภาคธุรกิจจำเป็นต้องมีความเข้มแข็งและมั่นคงในธุรกิจก่อน โดยมีภาครัฐให้การส่งเสริมสนับสนุนอย่างเต็มที่ เมื่อธุรกิจมีความพร้อมและแข็งแกร่งแล้ว ก็จะสามารถช่วยเหลือภาคประชาชนให้มีอาชีพและชีวิตที่ดีด้วยเช่นกัน
เบื้องต้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้กำหนดแผนสร้างความเข้มแข็งธุรกิจแฟรนไชส์ โดยนำธุรกิจแฟรนไชส์ที่อยู่ในการส่งเสริมของกระทรวงพาณิชย์จำนวน 424 กิจการ เข้าร่วมงานแสดงและจำหน่ายสินค้าในประเทศ รวมทั้ง เปิดพื้นที่ให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์แก่นักลงทุนและผู้สนใจ ใช้รูปแบบการนำเสนอ/เจรจาธุรกิจผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะเป็นตัวกลางประสานความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจและนักลงทุน ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ สร้างทักษะ/ประสบการณ์ในการนำเสนอธุรกิจ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ได้มีเวทีพบปะนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเพื่อเจรจาธุรกิจและเลือกลงทุนในระบบแฟรนไชส์ ส่งผลให้ธุรกิจมีความเข้มแข็งและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศ
รมช.พณ. กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้สร้างความเข้มแข็งแก่ผู้ประกอบการไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนาศักยภาพด้านบริหารจัดการธุรกิจให้มีมาตรฐานระดับสากล และเสริมสร้างความรู้ด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ตลาดต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่ธุรกิจจากตลาดในประเทศ (Local) สู่ตลาดโลก (Global) โดยธุรกิจแฟรนไชส์ เป็นธุรกิจเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ เนื่องจากเป็นธุรกิจสำเร็จรูปที่มีตราสินค้า หรือ Brand อยู่แล้ว ผู้ลงทุนในธุรกิจไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก มีขนาดการลงทุนให้เลือกหลายขนาดตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล สามารถทำควบคู่กับงานอื่นได้ แฟรนไชส์จึงเป็นธุรกิจที่นักลงทุนทั้งรายเก่าและรายใหม่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะสามารถเริ่มต้นทำธุรกิจได้ง่าย รวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก ที่สำคัญมีประเภทแฟรนไชส์ให้เลือกหลากหลายในราคาที่สามารถจับต้องได้
ธุรกิจแฟรนไชส์ หรือ โมเดลแฟรนไชส์ เป็นสาขาธุรกิจที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมากให้กับประเทศ และมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 มูลค่าทางเศรษฐกิจของธุรกิจแฟรนไชส์มีมากกว่าสามแสนล้านบาท มีจำนวนธุรกิจแฟรนไชส์รวมกันมากกว่า 600 กิจการ ทั่วประเทศ มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ร้อยละ 20 ต่อปี เมื่อเทียบกับ GDP ของประเทศซึ่งมีอัตราเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 1.6 ต่อปี ทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การที่ภาครัฐส่งเสริมผลักดันให้ผู้สนใจลงทุนในระบบแฟรนไชส์นำไปสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ควบคู่การพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ของภาครัฐให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล จะทำให้แฟรนไชส์ไทยมีความเข้มแข็งมากขึ้น ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบันด้วยเช่นกัน” รมช.พณ.กล่าวทิ้งท้าย