เทศบาลตำบลวังกะ ห้ามเด็กทำกิจกรรม ปะแป้ง เทินหม้อ มัคคุเทศก์น้อย บนสะพานไม้อุตตมานสรณ์ ตั้งแต่ วันพรุ่งนี้ (1 พ.ย.)
จากกรณีมีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ อนันต์ ส่งเสริม ได้โพสต์ข้อความว่า เด็กๆเรียกลุงถ่ายรูปพวกหนูหน่อยต่อไปพวกหนูเข้าไม่ยืนบนสะพานแล้วนะ เราจะเชื่อเด็กหรือผู้ใหญ่ดีนะ วันที่ 1 พ.ย. นี้เด็กๆ ที่ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปต่อไปนี้จะไม่เห็นเด็กอยู่บนสะพานแล้ว ซึ่งในเวลาต่อมามีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมาเทศบาลตำบลวังกะ ได้ ประชุมคณะอนุกรรมการจัดระเบียบบริเวณโดยรอบสะพานอุตตมานุสรณ์ และจัดระเบียบชุมชน โดยเชิญหลายฝ่ายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจัดระเบียบมัคคุเทศก์น้อย บนสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ภายหลังจากมีข้อห่วงใยถึงสวัสดิภาพ ความปลอดภัย การนำเด็กมาเป็นเครื่องมือในการทำมาหากิน จากองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเด็ก รวมทั้งมีนักท่องเที่ยวบางส่วนร้อนเรียนถึงปัญหาเด็กมัคคุเทศก์น้อยบนสะพานไม้ฯ ที่ไปรบกวนนักท่องเที่ยว โดยในที่ประชุมมีมติห้ามเด็กมัคคุเทศก์น้อยทำกิจกรรมบนสะพานฯตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้เป็นต้นไป
วันนี้ 31 ต.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ลงพื้นที่สะพานไม้ฯ โดยพบว่าเช้าวันนี้เด็กส่วนใหญ่ยังเดินทางมาทำกิจกรรมการเป็นมัคคุเทศก์น้อย คอยเล่าประวัติสะพานฯ บริการปะแป้งทานาคา ขายดอกไม้ รวมทั้งแสดงการเทินหม้อ และให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป จากการพูดคุยกับเด็กส่วนใหญ่ทราบดีว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะสามารถมาหารายได้บนสะพาน
ทั้งนี้มัคคุเทศก์น้อยบนสะพานไม้ฯมีที่มาตั้งแต่ปี 2558 หลังจากที่มีการเปิดสะพานให้กลับมาใช้งานได้ หลังจากถูกน้ำป่าซัดสะพานไม้ฯขาดในปี 2556 นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาท่องเที่ยวอำเภอสังขละบุรี เพื่อมาดูสะพานไม้ฯที่ซ่อมแซมเสร็จ ก่อนที่จะมีเด็กกลุ่มหนึ่งมากระโดดน้ำบนสะพานให้นักท่องเที่ยวดู แลกกับเงินตอบแทนที่ได้รับ ก่อนจะพัฒนามาเป็นการเล่าประวัติสะพานไม้ฯ การปะแป้ง การขายดอกไม้ การเทินหม้อ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเพื่อสร้างรายได้ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่คู่กับสะพานไม้ฯแห่งนี้ ที่นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งที่มาเที่ยวสังขละบุรีอยากเห็น จนเรียกได้ว่าความน่ารัก ของเด็กๆบนสะพานไม้ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวอำเภอสังขละบุรี
ปัจจุบันมีเด็กกว่า 40 คน ที่เลือกใช้เวลาว่างก่อนและหลังเลิกเรียน มาหารายได้ช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว บนสะพานไม้ฯแห่งนี้ ซึ่งปฎิเสธไม่ได้ว่าการออกคำสั่งของเทศบาลครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อเด็ก และการท่องเที่ยวของอำเภอสังขละบุรี ไม่มากก็น้อย รวมไปถึงรายได้เพื่อนำไปเป็นการศึกษาของเด็กเหล่านี้ด้วย
ทีมข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี