ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มกระตุ้น
03 พ.ย. 2565

สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มกระตุ้น เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเพิ่มสูงขึ้น

วันนี้ 2 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย นายแพทย์ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายแพทย์ประวัติ  กิจธรรมกูลนิจ  รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี  นายแพทย์จักรพันธ์ จันทร์สว่าง ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี นางลักษมีกานต์ สิริกาญจนชัยกุล หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ นายอุกฤษฎ์  บุษบงค์ สาธารณสุขอำเภอด่านมะขามเตี้ย และคณะตรวจเยี่ยม   ลงพื้นที่นิเทศติดตามการดำเนินงานฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อเสริมพลัง และวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรค การดำเนินงาน   ฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ โดยที่โรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย เปิดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทุกวัน เวลา 08.00 – 16.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00 – 16.00 น. ในช่วงรณรงค์ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน – 30 ธันวาคม 2565 ประชาชนสามารถ Walk in มารับบริการได้ตลอดช่วงการรณรงค์ดังกล่าว

นายแพทย์ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี  เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จังหวัดกาญจนบุรี ในภาพรวมมีแนวโน้มลดลง ตั้งแต่วันที่ 1 – 31  ตุลาคม 2565 จังหวัดกาญจนบุรี พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ สะสมจำนวน 5 ราย  อัตราป่วย 0.01 ต่อพันประชากร  ผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ 0 ราย พบการติดเชื้อเป็นกลุ่ม cluster ใหม่ จำนวน 1 cluster ที่อำเภอเลาขวัญ จำนวน 32 คน เมื่อวันที่ 14-30 ตุลาคม 2565 สถานการณ์การใช้เตียงวันนี้ 1 เตียง มีเตียงว่างทั้งหมด 3,672 เตียง  การเฝ้าระวัง ARI และ Pneumonia เดือนตุลาคม 2565 (วันที่ 1 – 31  ตุลาคม 2565) มีการคัดกรองผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ (ARI clinic) จำนวน 6,643 ราย พบเชื้อ 1.65% คัดกรองโรคปอดอักเสบ (Pneumonia) จำนวน 76 ราย ไม่พบเชื้อ (0%) การดูแล รักษา ผู้ป่วย  COVID-19 ปอดอักเสบ ที่ต้องได้รับออกซิเจน ใช้เครื่องช่วยหายใจ ETT จำนวน  4 ราย , HFNC จำนวน 3 ราย , O2mask จำนวน  1 ราย , O2 Canular จำนวน  2  ราย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานเกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนและบางส่วนติดเชื้อตามธรรมชาติ สถานการณ์การฉีดวัคซีน COVID-19 ของจังหวัดกาญจนบุรี ผลงานในภาพรวม เป้าหมาย จำนวน 560,793 ราย  ผลงานเข็ม 1 จำนวน  577,574 คน คิดเป็นร้อยละ 102.99 กลุ่มเสี่ยง 608 เป้าหมาย จำนวน 151,910 ราย ผลงานเข็ม 1 จำนวน 120,731 ราย คิดเป็นร้อยละ 79.48  ยังไม่ได้ตามเป้าหมายร้อยละ 90 (ข้อมูล วันที่  31 ตุลาคม  2565)

นายแพทย์ชาติชาย กล่าวต่อไปว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี จึงได้จัดรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 เข็มกระตุ้น ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน – 30 ธันวาคม 2565 เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเพิ่มสูงขึ้น และขอย้ำว่าการรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มกระตุ้น ยังมีความจำเป็นต้องฉีดกระตุ้นต่อเนื่อง เพราะภูมิคุ้มกันจะลดลงตามระยะเวลา โดยเฉพาะกลุ่ม 608 และเด็กเล็ก 6 เดือน ถึง 4 ปี วัคซีนจะช่วยลดการป่วยอาการหนักและเสียชีวิตได้ รวมถึงยังจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ด้วย โดยสามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นได้ที่โรงพยาบาลหรือ รพ.สต.ใกล้บ้าน ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ปรับการดำเนินงานให้บริการเป็นเชิงรุก โดยจัดทำบัญชีรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย และเจ้าหน้าที่เดินทางไปฉีดวัคซีนให้ที่บ้านสำหรับกลุ่มผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียง จัดบริการฉีดวัคซีนแบบ Walk in ตลอด 24 ชั่วโมง ในโรงพยาบาลทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์  สำรวจการฉีดวัคซีนของประชาชนในคลินิก โรคเรื้อรังใน รพ./ รพ.สต.ทั้งหมด 

หากพบว่ายังไม่ได้รับวัคซีน จัดบริการฉีดวัคซีนให้ทันที โดยขอให้มารับวัคซีนได้ตามความสมัครใจ ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อเร่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสก่อโรคเพิ่มสูงขึ้น พร้อมทั้งติดตามผลการดําเนินงานและเร่งรัดรณรงค์การฉีดวัคซีนเข็ม 1 ในกลุ่ม 608 และเข็มกระตุ้นในประชาชนทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง  โดยจัดบริการฉีดวัคซีนให้บุคคลที่มีสัญชาติไทยและไม่ใช่สัญชาติไทย    ทุกเข็ม แบบเชิงรับในโรงพยาบาลและแบบเชิงรุกใน รพ.สต. หรือนอกสถานพยาบาล  



ทีมข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / รายงาน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...