ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
สคบ. เรียกเงินคืนให้ผู้บริโภคกว่า ๑๑ ล้านบาท
04 พ.ย. 2565

 

                                                                      

                    วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๕  เวลา ๑๐.๐๐ น. นายอุฬาร  จิ๋วเจริญ  รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค  เป็นประธานในพิธีมอบเงินคืนให้แก่ผู้บริโภค จำนวน ๓๖ ราย รวมเป็นเงินกว่า ๑๑ ล้านบาท
ณ ห้องประชุม ๕ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรณีผู้บริโภคได้ทำสัญญาซื้อขายห้องชุดซึ่งตามบันทึกข้อตกลงในการซื้อขายห้องชุด ระบุว่า “ผู้จะซื้อมีสิทธิในการจอดรถยนต์ภายในทรัพย์ส่วนกลางแบบไม่ระบุตำแหน่ง จำนวน ๑ คัน และแบบระบุตำแหน่ง จำนวน ๑ คัน ตามที่นิติบุคคลอาคารชุดจะกำหนด” แต่ผู้บริโภคไม่สามารถใช้งานพื้นที่ดังกล่าวได้

                        สืบเนื่องจาก คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๑   ได้มีมติมอบหมายให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคดำเนินคดีแพ่งแก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายหนึ่ง
เพื่อบังคับให้บริษัทฯ ชำระค่าเสียหายให้แก่ผู้บริโภคและพวกรวมจำนวน ๓๖ คน เป็นเงินคนละ ๖๖๔,๒๓๕ บาท
(หกแสนหกหมื่นสี่พันสองร้อยสามสิบห้าบาทถ้วน) รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน ๒๕,๒๕๐,๙๓๐ บาท (ยี่สิบห้าล้าน
สองแสนห้าหมื่นเก้าร้อยสามสิบบาทถ้วน) พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย   ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
(สคบ.) โจทก์  ได้ส่งเรื่องร้องทุกข์ไปยังอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีแพ่งกรุงเทพใต้  เพื่อดำเนินการตามมติคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคดังกล่าว  ต่อมาสำนักงานคดีแพ่งกรุงเทพใต้ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้แจ้งผลคดีของศาลแพ่ง
กรุงเทพใต้  ซึ่งศาลได้พิพากษายกฟ้อง  สคบ.  จึงแจ้งไปยังอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีแพ่งกรุงเทพใต้ ขอให้พนักงานอัยการในฐานะเจ้าหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคอุทธรณ์คำพิพากษาศาลแพ่งกรุงเทพใต้   โดยศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่าให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่ผู้บริโภครายละ ๒๕๐,๐๐๐ บาท รวม ๓๖ ราย เป็นเงิน ๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท
พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ เป็นต้นไป  จนถึงวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๔ และอัตราร้อยละ ๕ ต่อปี ตั้งแต่วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๔  เป็นต้นไป  จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์  ต่อมาจำเลย
ได้ยื่นฎีกา ซึ่งศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกายกคำร้องและไม่รับฎีกาของจำเลย คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาทั้งหมด
แก่จำเลย จำเลยจึงได้นำเงินมาวางศาลเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาล และเมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๕
สคบ. ได้ไปยื่นคำแถลงต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เพื่อขอให้ศาลคำนวณยอดหนี้ และขอรับเงินที่จำเลยนำมาวางศาล
เพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษา จำนวน ๑๑,๒๐๑,๙๑๗,๘๑ บาท (สิบเอ็ดล้านสองแสนหนึ่งพันเก้าร้อยสิบเจ็ดบาท
แปดสิบเอ็ดสตางค์)

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...