พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่หนองหาร จ.สกลนคร (ตามแผนหลักการพัฒนาหนองหารฯ) ณ ห้องประชุมภูมิทัตโต โรงพยาบาลสกลนคร อ.เมือง จ.สกลนคร โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครกล่าวต้อนรับ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอภาพรวมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและแผนหลักการพัฒนาหนองหาร พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานนำเสนอแนวทางการดำเนินงาน พร้อมทั้งได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสภาพรอบหนองหาร ณ สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 ปี โดยมีประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ
สำหรับ “หนองหาร” เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในภาคอีสานและเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ ทั้งเป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับอุปโภคบริโภคและการเกษตร การบำรุงพันธุ์สัตว์น้ำ พื้นที่ชะลอน้ำเพื่อบรรเทาอุกภัย และแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำเก็บกักประมาณ 93% ของความจุ ซึ่งในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมาหนองหารสามารถช่วยชะลอน้ำและเก็บกักน้ำฝนไว้ใช้ประโยชน์ในช่วงแล้งที่จะถึงนี้ได้เป็นอย่างดี ดังนั้น เพื่อการใช้ประโยชน์พื้นที่ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน การลงพื้นที่ของรองนายกรัฐมนตรีในวันนี้ จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเตรียมความพร้อมรับมือฤดูแล้งตาม 10 มาตรการรับมือฤดูแล้ง ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 พ.ย.65 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน มอบหมายให้ สทนช.และจังหวัดสกลนคร ติดตามเร่งรัดขับเคลื่อนแผนงาน/โครงการตามแผนหลักการพัฒนาหนองหารที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ และให้กรมชลประทานจัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำของหนองหาร เพื่อใช้ในการชะลอ หน่วง กักเก็บน้ำ ป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วม และบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนให้มากที่สุด นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการ โดยจังหวัดสกลนคร กรมประมง และกรมทรัพยากรน้ำ เร่งดำเนินการขุดลอกดินตะกอน เพื่อเก็บกักน้ำ และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ กรมประมง เร่งดำเนินการฟื้นฟู อนุรักษ์ และเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ กรมโยธาธิการและผังเมือง เร่งดำเนินการโครงการก่อสร้างพนังกั้นน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วมให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด จังหวัดสกลนครและองค์การจัดการน้ำเสีย ควบคุมระบบการจัดการน้ำเสียให้ได้มาตรฐาน และให้ทุกหน่วยงานดำเนินการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับทราบเป็นการล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง
ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมถึงความก้าวหน้าแผนหลักการพัฒนาหนองหาร ตามแผนแม่บทฯน้ำ 20 ปี รวมระยะเวลา 10 ปี (ปี 2563-72) จำนวน 62 แผนงาน/โครงการ ดำเนินการโดย 14 หน่วยงาน ซึ่งผลการดำเนินงานปี 2563-65 แล้วเสร็จ 19 โครงการ ในปี 2563 มีจำนวน 4 โครงการ ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด เช่น โครงการสำรวจความลึกของท้องน้ำหนองหาร และโครงการกำจัดวัชพืชลอยน้ำในหนองหาร ระยะที่ 2 เป็นต้น ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทุกหน่วยงานบูรณาการขับเคลื่อนแผนงาน/โครงการตามข้อสั่งการโดยเคร่งครัด โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์พื้นที่ในการหน่วงและกักเก็บน้ำสำรองไว้ใช้ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบให้กับประชาชนในช่วงฤดูแล้งนี้ด้วย