กระทรวงคมนาคม เตรียมนำระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ติดตั้งบนรถโดยสารมาให้บริการบนรถโดยสารของ ขสมก. ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมอุปกรณ์ หรือ E – ticket ระหว่าง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. กับ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างนำระบบตั๋วร่วม ภายใต้ชื่อ “บัตรแมงมุม” มาใช้ในการเชื่อมต่อการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ประกอบด้วย รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน รถโดยสารประจำทาง และเรือโดยสาร พร้อมจัดตั้งสำนักงานโครงการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เพื่อเป็นหน่วยงานกลางในการกำหนดมาตรฐานกลางตั๋วร่วม พร้อมเร่งรัดดำเนินการให้สามารถใช้งานระบบดังกล่าวได้ และตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป จะเริ่มนำร่องในระบบรถโดยสารประจำทางของ ขสมก. จำนวน 800 คันก่อน
เพื่อรองรับการใช้บัตรผู้มีรายได้น้อยของกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ขสมก. ได้ดำเนินโครงการเช่าระบบบัตรโดยสาร E – ticket พร้อมอุปกรณ์ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ สรรหาบริษัทที่จะมาติดตั้งระบบและอุปกรณ์ ทั้ง เครื่องอ่านบัตร และเครื่องเก็บค่าโดยสาร บนรถโดยสารประจำทาง จำนวน 2,600 คัน มูลค่าโครงการกว่า 1,665 ล้านบาท ระยะสัมปทาน 5 ปี โดยบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ชนะการประกวดราคา พร้อมทั้งมั่นใจว่าการนำระบบบัตรโดยสาร E - ticket มาใช้บนรถโดยสารประจำทางของ ขสมก. จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บค่าโดยสารประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องเสียค่าแรกเข้าระบบซ้ำซ้อน และช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร พร้อมยืนยัน ขสมก.จะไม่มีการให้พนักงานออกจากงานแต่อย่างใด แต่จะมีโครงการปรับเปลี่ยนหน้าที่ในตำแหน่งอื่นซึ่งจะพิจารณาจากความรู้ความสามารถของพนักงานเป็นหลัก
ด้านนายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า หลังจากลงนามสัญญาภายในระยะเวลา 100 วัน บริษัทจะติดตั้งระบบ E - ticket บนรถโดยสารประจำทางไม่น้อยกว่า 200 คัน จากนั้นจะทยอยนำออกมาให้บริการภายในระยะเวลา 4 เดือน และจะติดตั้งได้ครบทั้ง 2,600 คันภายในระยะเวลา 300 วัน