ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
คมนาคม ไฟเขียว ขึ้นค่าแท็กซี่กรุงเทพฯ 8 หมื่นคัน เริ่มที่ 35 - 40 บาท
10 พ.ย. 2565

กระทรวงคมนาคมไฟเขียวขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ เฉพาะกรุงเทพฯก่อน 8 หมื่นคัน สตาร์ต รถเล็ก 35 บาท รถใหญ่ 40 บาท ก่อนปรับราคาขึ้นตามระยะเดินทาง เล็งเสนอ “ศักดิ์สยาม” ให้ความเห็นชอบก่อนประกาศกฎกระทรวงบังคับใช้ต่อไป หลังปรับขึ้นค่าโดยสาร ขอเน้นย้ำให้แท็กซี่ปรับปรุงพัฒนาคุณภาพบริการ ห้ามปฏิเสธผู้โดยสาร หากพบโชเฟอร์คันไหนทำผิดกฎ จะพักใบอนุญาตและถอนใบอนุญาตตามลำดับ

ที่กระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 9 พ.ย. นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม นางสุขสำรวย วันทนียกุล เลขานุการ รมว.คมนาคม พร้อมนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมประชุมหารือกับผู้แทน 4 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย สมาคมประสานงานรถรับจ้างสุวรรณภูมิ สมาคมผู้ขับรถแท็กซี่สาธารณะ สมาคมแท็กซี่ยานยนต์ไฟฟ้า และบริษัท โฮวา จำกัด ติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารแท็กซี่มิเตอร์ หลังมีการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ต.ค.และช่วงเช้าของวันดังกล่าวมีสมาชิกแท็กซี่มารวมพลที่หน้ากระทรวงคมนาคมกว่า 200 คน เพื่อกดดันเรื่องการพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสาร

นายวิรัชเปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกชี้แจงที่ประชุมว่า การพิจารณากำหนดอัตราค่าโดยสารดังกล่าวเป็นการดำเนินการในรูปแบบของคณะทำงาน ประกอบด้วยผู้แทนของหน่วยงานต่างๆได้รับฟังความเห็นอย่างรอบด้านจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค สำนักสภาองค์กรของผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ผู้แทนภาคประชาชน รวมถึงผู้แทนสหกรณ์

นายวิรัชกล่าวอีกว่า กรมการขนส่งทางบก ขอให้ 4 สมาคม รับอัตราค่าโดยสารที่ผ่านการพิจารณา ของคณะทำงานฯ นี้ไปก่อน เพื่อให้สามารถไปสร้างรายได้เพิ่มขึ้นพอสมควร โดยประชาชนไม่ได้รับผลกระทบมากจนเกินไป ท้ายที่สุดผู้แทน 4 สมาคม ยอมรับอัตราดังกล่าว จากนั้นกรมรับที่จะจัดตั้งคณะทำงาน ศึกษาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมมีความเป็นสากล รวมถึงการจัดหาแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างของมิเตอร์แท็กซี่ให้มีความเหมาะสมกับปัจจุบันและเป็นสากล ขั้นต่อไปจะออกประกาศกระทรวงคมนาคมกำหนดอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่ใหม่ ก่อนเริ่มให้มีการจูนมิเตอร์ โดยผู้แทน 4 สมาคม ขอให้กรมการขนส่งทางบกช่วยเหลือให้ค่าจูนมิเตอร์มีราคาเหมาะสม ไม่เป็นภาระแก่ผู้ขับรถแท็กซี่เกินไป พร้อมทั้งเตรียมพื้นที่ในการปรับจูนมิเตอร์ให้มีความคล่องตัวและรวดเร็ว

ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า มติที่ประชุมครั้งนี้เห็นชอบแนวทางการปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ตามที่กรมและทีดีอาร์ไอ เสนอว่าจะปรับอัตราค่าโดยสารในราคาที่เหมาะสมดังนี้ ระยะทาง 1 กิโลเมตร (กม.) แรก รถเล็ก 35 บาท รถใหญ่ 40 บาท ระยะทาง 2-10 กม. รถเล็ก กม.ละ 6.5 บาท รถใหญ่ กม.ละ 6.5 บาท ระยะทาง 11-20 กม. รถเล็ก กม.ละ 7 บาท รถใหญ่ กม.ละ 7 บาท ระยะทาง 21-40 กม. รถเล็ก กม.ละ 8 บาท รถใหญ่ กม.ละ 8 บาท ระยะทางเกิน 41-60 กม.รถเล็ก กม.ละ 8.5 บาท รถใหญ่ กม.ละ 8.5 บาท ระยะทาง 61-80 กม. รถเล็ก กม.ละ 9 บาท รถใหญ่ กม.ละ 9 บาท ระยะทาง 81 กม.ขึ้นไป รถเล็ก กม.ละ 10.5 บาท รถใหญ่ กม.ละ 10.5 บาทค่ารถติดกรณีรถเคลื่อนที่ได้ช้ากว่า 6 กม./ชั่วโมง (ชม.) รถเล็ก 3 บาทต่อนาที รถใหญ่ 3 บาทต่อนาที หลังจากประชุมครั้งนี้แล้ว กรมการขนส่งทางบกจะรวบรวมข้อมูล เพื่อเสนอนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เห็นชอบมติผลประชุมครั้งนี้ภายใน 1-2 สัปดาห์ หากได้รับความเห็นชอบแล้วต้องประกาศกฎกระทรวงในการปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ มี รมว.คมนาคมเป็นผู้ลงนาม เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป

อธิบดีกรมการขนส่งกล่าวอีกว่า การปรับขึ้นค่าโดยสารครั้งนี้มีผลเฉพาะแท็กซี่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ที่อยู่ในระบบทั้งหมด 80,000 คัน จากที่ให้บริการจริงในปัจจุบัน 60,000 คัน หลังจากมีมติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารแล้ว จำนวนรถแท็กซี่ที่มีอยู่ต้องนำมาปรับจูนมิเตอร์ค่าโดยสารใหม่ เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยกรมจะเตรียมพื้นที่รองรับจำนวนรถแท็กซี่ที่ดำเนินการปรับมิเตอร์ราคาใหม่ครั้งนี้ด้วย เพื่อความรวดเร็วและลดแออัดในการดำเนินการ หลังปรับขึ้นค่าโดยสารแล้ว เน้นย้ำแท็กซี่ในเรื่องพัฒนาคุณภาพให้บริการที่ดี อาทิ ไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร หากพบว่ามีการกระทำผิดจะลงโทษตามกฎหมายขั้นสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบตัดแต้มใบอนุญาตขับรถ หรือหากมีการทำผิดซ้ำจะพักใช้ใบอนุญาตขับรถ 3-6 เดือน และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถแล้วแต่กรณี ส่วนแท็กซี่ต่างจังหวัดการปรับขึ้นค่าโดยสาร สำนักงานขนส่งจังหวัดในพื้นที่ต่างๆจะเป็นผู้พิจารณา เนื่องจากแท็กซี่ต่างจังหวัดมีอัตราค่าโดยสารที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับดัชนีราคา ผู้บริโภค (ซีพีไอ) โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดเมืองท่องเที่ยว อาทิ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ภูเก็ต มีอัตราค่าครองชีพสูงมาก ทำให้อัตราค่าโดยสารไม่เท่ากัน

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...