ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง ประเมิน เอเปค กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวน 1,156ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 18 – 19 พ.ย.
เมื่อสอบถามถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยและประชาชนได้รับจากการจัดประชุม เอเปคในประเทศไทยต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังวิกฤตโควิด พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.6 ระบุเกิดประโยชน์มากถึง มากที่สุด ในขณะที่ ร้อยละ 10.3 ระบุปานกลาง และร้อยละ4.1 ระบุน้อยถึงไม่เกิดประโยชน์เลย
ที่น่าสนใจคือ ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.5 พอใจมากถึงมากที่สุดต่อ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีผลงานจัดประชุม เอเปคในประเทศไทย ดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังวิกฤตโควิด ในขณะที่ ร้อยละ 11.4 พอใจปานกลาง และร้อยละ 6.1 พอใจน้อยถึงไม่พอใจเลย
นอกจากนี้ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.9 พอใจมากถึงมากที่สุดต่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ทำหน้าที่หารือกับประเทศต่าง ๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น และอื่น ๆ ในการค้าระหว่างประเทศกับสินค้าไทย เช่น ข้าว กล้วยไม้ และอื่น ๆ
เมื่อสอบถามถึงความเชื่อมั่นของประชาชนในอีก 6 เดือนข้างหน้าต่อเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นกว่านี้ที่เป็นผลพวงจากการประชุมเอเปค ครั้งนี้พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.8 เชื่อมั่นมากถึงมากที่สุด ร้อยละ 22.7 เชื่อมั่นปานกลาง และร้อยละ 11.5 เชื่อมั่นน้อยถึงไม่เชื่อมั่นเลย
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่พอใจต่อการจัดประชุมเอเปคในประเทศไทยและพอใจต่อ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจในการทำหน้าที่หารือกับต่างประเทศในด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ
โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตรด้วยการเปิดกว้างในทุกโอกาสสร้างความสมดุลในการเปลี่ยนแปลงหลังวิกฤตโควิด โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ที่กำลังเป็นกระแสตื่นตัวไปทั่วโลกด้วยโมเดลเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy)ที่มุ่งเน้นไปยังการสร้างความสมดุลและเปิดทุกโอกาสในการปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่าบทบาทสำคัญของการค้าการลงทุนและการฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนในเวลานี้ การลดความเหลื่อมล้ำการขจัดความยากจน ยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นการปฏิรูปการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่หลังวิกฤตโควิดที่มุ่งเน้นการจัดสภาพแวดล้อมเงื่อนไขทางการค้าและการลงทุนที่เสรี เปิดกว้าง เป็นธรรม ไม่แทรกแซง ไม่เลือกปฏิบัติมีความโปร่งใสใช้ข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์ถูกต้องครอบคลุมและพยากรณ์อนาคตของการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจได้อย่างแม่นยำเพื่อรักษาความสมดุลของการลงทุนและการพัฒนาเศรษฐกิจจากการประชุมเอเปคครั้งนี้ที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศร่วมกันเป็นเจ้าภาพกับรัฐบาลจัดงานประชุมเอเปคครั้งนี้ได้สำเร็จเป็นที่พึงพอใจและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนทั้งประเทศตามผลโพลที่ค้นพบครั้งนี้