เทศบาลตำบลลาดหญ้ายืนยัน สั่งระงับการก่อสร้างบ้านสองหลัง บนที่ดินแปลงที่ถูกบุกรุกจริง แต่ยังไม่มีการปรับเงินกับทางเจ้าของที่ดินที่ถูกบุกรุก ขณะที่เพื่อนบ้านใกล้เคียงที่ดินที่เกิดข้อพิพาทชี้ ที่ดินละแวกนี้มีการแบ่งขายเป็นแปลงย่อยๆโดยเจ้าของหลายคน จนอาจทำให้เกิดการสับสนได้
ความคืบหน้า กรณี นายไพรัตน์ ชาวโรจน์ อายุ 45 ปี เจ้าของที่ดินเนื้อที่ 110.5 ตารางวา ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ได้ออกมาร้องเรียนว่า ที่ดินของตนเองได้ถูกบุกรุกเข้ามาสร้างบ้าน จำนวน 2 หลัง พร้อมขึ้นป้ายประกาศขาย ทั้งที่ตนเองไม่รู้เรื่อง อีกทั้ง เมื่อตนเองทราบว่าถูกบุกรุกเข้ามาปลูกบ้านในที่ดินของตนเอง กลับต้องมาถูกทางเทศบาลตำบลลาดหญ้า เจ้าของพื้นที่ ออกหนังสือแจ้งระงับการก่อสร้างและเรียกปรับเงิน ฐานก่อสร้างบ้านโดยไม่ขออนุญาตเป็นจำนวนเงินหลายหมื่นบาทนั้น
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ บริเวณที่ดินแปลงที่เกิดปัญหาพร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดกาญจนบุรี โดยพบว่าที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่ภายในซอยใกล้เคียงวัดทุ่งลาดหญ้า ทางเข้าเป็นถนนดินลูกรังและเป็นแปลงเกษตรสองข้างทาง โดยด้านในซอยนอกจากบ้านสองหลังที่ถูกสร้างขึ้นและเกิดปัญหาจนถูกปล่อยทิ้งร้างไว้แล้ว ยังมีการก่อสร้างบ้านภายในซอยดังกล่าวอีกหลายหลัง สอบถามเพื่อนบ้านที่มาปลูกบ้านอยู่ในซอยเดียวกัน ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ดินภายในซอยนี้ ส่วนใหญ่เป็นที่ดินทางการเกษตรและมีการแบ่งที่ดินออกเป็นแปลงย่อยๆหลายแปลงและมีเจ้าของหลายคน โดยบ้านสองหลังที่เกิดปัญหานั้น ทางคนที่เข้ามาก่อสร้างได้ซื้อที่ดินต่อมาจากเจ้าของที่ดิน ซึ่งเป็นชาวจังหวัดราชบุรี แต่คาดว่าในช่วงการมาซื้อขายและชี้แนวเขตที่ดิน น่าจะเกิดการเข้าใจผิด เนื่องจากที่ดินแปลงที่เกิดปัญหากับที่ดินที่ทางผู้ปลูกบ้านซื้อมานั้น อยู่ติดกันและมีขนาดใกล้เคียงกัน แถมยังเป็นแปลงมะเขือเหมือนกัน จึงน่าจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดและสร้างบ้านบนที่ดินผิดแปลง ซึ่งหลังเกิดปัญหาขึ้น ก็ได้มีการหยุดการก่อสร้างทันที จนทำให้บ้านทั้งสองหลังที่ขึ้นโครงสร้างพื้นฐานเอาไว้แล้วถูกทิ้งร้างจนกลายเป็นบ้านร้างไปในที่สุด
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสำนักงานเทศบาลตำบลลาดหญ้า เพื่อสอบถามข้อมูลกับนายวรากร เสือส่าน นายกเทศมนตรีตำบลลาดหญ้า ซึ่งนายวรากร กล่าวว่า หลังจากทางเทศบาลได้เข้าไปตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าวและพบว่า เกิดกรณีข้อพิพาทและพบว่าการก่อสร้างบ้านทั้งสองหลังนั้น ไม่ได้มีการขออนุญาตกับทางเทศบาล ซึ่งตามระเบียบจะต้องทำหนังสือแจ้งระงับการก่อสร้างไปให้กับทางเจ้าของที่ดินทราบ ซึ่งทางเทศบาลก็ดำเนินการไปตามข้อกำหนด ส่วนเรื่องที่ทางเจ้าของที่ดินอ้างว่าถูกเรียกปรับเงินจำนวนหลายหมื่นบาทนั้น ทางเทศบาลยืนยันว่า ยังไม่มีการเรียกปรับเงินกับทางเจ้าของที่ดิน เป็นเพียงการแจ้งให้ทราบว่าหากฝ่าฝืนสร้างบ้านทั้งสองหลังต่อไป จะมีโทษปรับเงินเท่านั้น ส่วนประเด็นที่ว่า ทางผู้สร้างบ้านบนที่ดินผิดแปลงนั้น ได้ขออนุญาตก่อสร้างบ้านกับทางเทศบาลหรือไม่นั้น ขณะนี้ทางเทศบาลกำลังให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ว่ามีการขออนุญาตหรือไม่ต่อไป
ทีมข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / รายงาน