“เฉลิมชัย”สั่งฑูตเกษตรตรวจสอบทันทีกรณีมีข่าวพ่อค้าจีนขายทุเรียนไทยด้อยคุณภาพในเซี่ยงไฮ้
“อลงกรณ์”แจงรายงานล่าสุดยืนยันไม่ใช่ทุเรียนไทย แต่อย่าประมาทอาจพลาดได้เพราะส่งออกทุเรียนผลสดไปจีนปีนี้แล้วกว่า 210 ล้านลูก
มอบฑูตเกษตรไทยในจีนชี้แจงข่าวสื่อสารเชิงรุกพร้อมเฝ้าระวังปัองกันปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพล่วงหน้าเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของผลไม้ไทยทุเรียนไทยในฐานะแชมป์จีนแชมป์โลก
กรณีที่สื่อบางฉบับนำเสนอข่าวเมื่อวันที่28 พ.ยว่ามีการเผยแพร่คลิปทุเรียนซึ่งวางจำหน่ายในประเทศจีน ที่ผู้ขายอ้างว่าเป็นทุเรียนจากไทย จนทำให้ลูกค้าในเซี่ยงไฮ้หลงเชื่อซื้อกลับไปรับประทานในราคากิโลกรัมละ 200 หยวน หรือประมาณ 1,000 บาทแต่กลับพบว่ารสชาติไม่ใช่ของไทย และคลิปดังกล่าวยังถูกส่งต่อในประเทศจีนเป็นวงกว้างจนเกรงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะกระทบต่อชื่อเสียงของทุเรียนไทย
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (ฟรุ้ทบอร์ด-Fruit Board) เปิดเผยวันนี้(29 พ.ย.)ว่า ทันทีที่ทราบข่าวได้รายงานต่อดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานฟรุ้ทบอร์ดโดยสั่งการทันทีในวันที่มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าว(28พ.ย)ให้ฑูตเกษตรของไทยทั้ง3สำนักงานได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้และกวาง
โจวตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมกับเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยทันที โดยได้รับรายงานในตอนค่ำของวันวานจากกงสุลฝ่ายเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ว่า ได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงจุดจำหน่ายทุเรียนตามที่ปรากฏในข่าวแต่ไม่พบการขายทุเรียน อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า กรณีที่เป็นข่าว เป็นรถขายทุเรียนริมทาง (รถกระบะ) ไม่ใช่การขายทุเรียนจากร้านค้าที่มีแหล่งที่ตั้งถาวร โดยปกติรถขายทุเรียนคันนี้จะจอดขายช่วงกลางคืนบนถนน Xinhua ของเมืองเซี่ยงไฮ้ ช่วงวันที่ขายก็ไม่แน่นอน แต่ส่วนใหญ่จะมาขายวันเสาร์อาทิตย์ ที่ผ่านมารถดังกล่าวไม่ได้มาจอดขายทุเรียน ณ บริเวณนั้นนานกว่าสัปดาห์แล้ว ราคาขายจะเป็นราคาต่อจินหรือ 500 กรัม
ปกติทุเรียนไทยที่จำหน่ายในช่วงนี้ราคาประมาณ 25-40 หยวน/500กรัม หรือ 50-80 หยวน/กก. (หรือประมาณ 250-400 บาท/กก)
ทั้งนี้ รถขายทุเรียนข้างทาง ส่วนใหญ่จะพบเห็นตามชานเมือง จอดขายริมถนนเฉพาะช่วงกลางคืน เพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ และทุเรียนที่ขายก็เป็นทุเรียนตกเกรด คุณภาพต่ำ และส่วนใหญ่ราคาถูกกว่าร้านค้าผลไม้ที่ได้มาตรฐาน
จากการสอบถามข้อมูลจากตลาดค้าส่งทราบว่า รถขายทุเรียนข้างทางในเซี่ยงไฮ้เป็นรถกระบะมาจากมณฑลอื่น โดยพ่อค้าจะไปซื้อทุเรียนตกเกรดราคาต่ำ ในปริมาณมากๆ มาเร่ขายริมถนน โดยบางคันจะเปลี่ยนที่ขายไปเรื่อยๆ จะแกะเนื้อทุเรียนขายเฉพาะเนื้อ ไม่ขายทั้งเปลือก นอกจากนี้ เครื่องชั่งก็ไม่ได้มาตรฐาน จากการสอบถามคนที่เคยซื้อทุเรียนจากรถกระบะ จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ทุเรียนคุณภาพต่ำ รสชาติไม่อร่อย
นอกจากนี้จากการสำรวจร้านจำหน่ายผลไม้ในพื้นที่ 5 ร้าน ทุเรียนไทยราคาสูงกว่าทุเรียนเวียดนาม พ่อค้าบอกว่าทุเรียนไทยอร่อยและเป็นที่รู้จัก คนที่รู้จักทุเรียน ก็จะมักเลือกซื้อทุเรียนไทย
ในสายตาผู้บริโภค จะไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างทุเรียนไทยและทุเรียนประเทศอื่นจากรูปลักษณ์ได้ แต่จะสังเกตความแตกต่างจากสติกเกอร์ที่ขั้วผลที่ระบุว่าเป็นทุเรียนจากประเทศไทยหรือเวียดนาม
นายอลงกรณ์กล่าวว่า สปษ.ปักกิ่ง ฝ่ายเกษตรฯ กว่างโจวและเซี่ยงไฮ้ ได้มีการรายงานและเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานทุเรียนที่ส่งออกมายังจีนอย่างต่อเนื่องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงควรให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพทุเรียนไทยก่อนการส่งออกเพื่อมิให้มีทุเรียนตกเกรด หรือทุเรียนคุณภาพต่ำมาจำหน่ายซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของทุเรียนไทยในภาพรวม ตามนโยบายยกระดับคุณภาพและมาตรฐานผลไม้ไทยของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประธานฟรุ้ทบอร์ด ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายเกษตรทั้ง3สำนักงานร่วมกับทีมไทยแลนด์ในจีนเฝ้าระวังติดตามข่าวสารในสื่อออนไลน์และสื่อต่างๆหากปรากฎข่าวที่กระทบต่อผลไม้ไทยให้ตรวจสอบและชี้แจงต่อสาธารณชนทันที นอกจากนี้ยังมอบหมายให้กรมวิชาการ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์และหน่วยงานในพื้นที่ผลไม้ทำงานเชิงรุกบูรณาการกับทุกภาคส่วนให้เข้มข้นเข้มแข็งมากขึ้นโดยเฉพาะการประสานการทำงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ พาณิชย์ สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรชาวสวนผลไม้ สมาคมผลไม้ สมาคมทุเรียน สมาคมผู้ส่งออก หอการค้า สภาอุตสาหกรรม ศูนย์AICและภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง
เพื่อป้องกันทุเรียนสวมสิทธิ์ทุเรียนอ่อนทุเรียนด้อยคุณภาพ การปนเปื้อนโควิด การใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับ(Traceability)และการพัฒนาแบรนด์เช่นสหกรณ์การเกษตรเมืองขลุงจังหวัดจันทบุรีรวมทั้งการสร้างแบรนด์ทุเรียนจังหวัดเช่นจันทบุรี ตราด ระยอง ศรีสะเกษ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราชเพชรบุรี ยะลา และประจวบคีรีขันธ์เป็นตัวอย่างต้องเข้าใจว่าขณะนี้ประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้ส่งออกทุเรียนผลสดรายเดียวในจีนมีการแข่งขันในตลาดจีนมากขึ้นอาจมีผู้ไม่หวังดีออกข่าวหรือทำคลิปเผยแพร่บ่อนทำลายใส่ร้ายทุเรียนไทยให้เสียหายจึงต้องช่วยกันดูแลเป็นพิเศษ
“ตั้งแต่ 1 ก.พ.กลางเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ประเทศไทยส่งออกทุเรียนผลสดไปจีนแล้วกว่า 7 แสนตันหรือกว่า 210 ล้านผลยังเป็นแชมป์ส่งออกไปจีนและครองส่วนแบ่งตลาดกว่า90%ทำให้ชาวสวนทุเรียนมีรายได้เพิ่มขึ้นและราคาดีมีเสถียรภาพ แต่ยังมีทุเรียนด้อยคุณภาพหลุดส่งออกไปจีนแม้จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่า0.001%นับว่าน้อยมากและสะท้อนถึงความสำเร็จของนโยบายยกระดับคุณภาพและมาตรฐานที่ทุกภาคภาคส่วนได้ช่วยกันทำงานตั้งแต่ชาวสวน มือตัด สหกรณ์ สมาคมผลไม้ สมาคมทุเรียน สมาคมล้ง ผู้ประกอบการเอกชน และหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่และในต่างประเทศ แต่เราต้องทำงานหนักขึ้นเมื่อมีสถานการณ์การแข่งขันเปลี่ยนแปลงไปมีคู่แข่งมากขึ้นมีการปลูกทุเรียนมากขึ้น ซึ่งฟรุ้ทบอร์ดได้เตรียมการล่วงหน้ามา2ปีโดยศึกษาโจทย์และความท้าทายใหม่ๆจนสามารถจัดทำแผนพัฒนาผลไม้5ปี(2565-2570)จนแล้วเสร์จและดำเนินการอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งการบริหารโลจิสติกส์จนสามารถเปิดด่านจีนได้เพิ่มขึ้นเป็น 10 ด่านและประสานงานกับจีนและลาวอย่างต่อเนื่องในการขนส่งทุเรียนและผลไม้อื่นๆตามพิธีสารผลไม้ไทย-จีนทางรถไฟจีน-ลาวได้ในเดือนหน้าถือเป็นข่าวดีและโอกาสใหม่ๆของผลไม้ไทยโดยเฉพาะทุเรียน ลำไย มังคุด ฯลฯ.”นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด.