นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกและคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายกล่าวถึงการบังคับคดีในคดีจำนำข้าวว่า ไม่ทราบจะไปทำอะไรที่ไหน หาทรัพย์สินไม่เจอก็หยุดไว้ก่อนนั้น ตนเชื่อว่า นายวิษณุ ทราบข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงดี และที่ให้สัมภาษณ์ในลักษณะนั้นคงเข้าใจหลักในการบังคับคดีคลาดเคลื่อนไป คดีนี้ประเทศเป็นผู้เสียหาย รัฐถือได้ว่าเป็นเจ้าหนี้ ที่จะต้องทำทุกวิธีทางเพื่อเรียกเงินของแผ่นดินคืนมา เมื่อจะบังคับคดีก็ต้องมีการสืบแสะว่ามีทรัพย์อะไรบ้าง ตรวจดูที่ดิน ตรวจดูบ้าน ตรวจดูยานพาหนะ ตรวจดูบัญชีเงินฝาก ตรวจดูว่ามีใครคนอื่นที่ถือทรัพย์สินต่างๆแทนไว้ด้วยหรือไม่
ซึ่งกรณีคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เบื้องต้นแค่เปิดดูบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ปปช. ก็รู้แล้วว่ามีทรัพย์สินอะไรบ้าง ทรัพย์สินที่ยื่นไว้ล่าสุดกรณีพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี วันที่ 8 ธันวาคม 2557 รวม 586 ล้านบาท เกือบ 600 ล้านบาท นี่หรือที่หาไม่เจอ คดีนี้อยู่ที่ว่าจะทำหรือไม่ทำเท่านั้น คณะกรรมการ ปปช. น่าจะส่งบัญชีทรัพย์สินของคุณยิ่งลักษณ์ไปให้นายวิษณุดูประกอบจะได้ทราบข้อเท็จจริง
นายราเมศกล่าวว่าที่สำคัญรัฐบาลไม่เคยใช้มาตรการอายัดทรัพย์สินไว้ก่อนมาใช้กับกรณีนี้เลย คือ กล้าหรือไม่ที่จะแจ้งไปยังธนาคาร แจ้งไปยังกรมที่ดิน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ห้ามทำธุรกรรม หรือนิติกรรมในเรื่องทรัพย์สินก่อนเพราะอยู่ในระหว่างการบังคับคดี
ซึ่งรัฐบาลต้องตอบประชาชน อย่าทำเหมือนแอบขยิบตาอีกข้างหนึ่ง ใครที่ทำให้ประเทศเสียหายถ้าเรียกคืนมาได้บาทเดียวก็ต้องเรียก เพราะนี้คือการแสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายในบ้านเมือง