นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม HACKaTHAILAND 2023 #TheKickOff ภายใต้แนวคิด DIGITAL INFINITY: ดิจิทัลไม่มีที่สิ้นสุด ว่า รัฐบาลโดยกระทรวงดิจิทัล มุ่งมั่นผลักดันประเทศไทยสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนและบุคลากรดิจิทัล จึงได้ต่อยอดโครงการ HACKaTHAILAND ด้วยการจัดกิจกรรม HACKaTHAILAND 2023 ขึ้น
โดยเปิดตัวโครงการสำคัญ 8 โครงการ ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนดีอี จำนวนเงินประมาณ 1 พันล้านบาท คาดว่าจะเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจต่างๆ มากมาย โดยจะได้ประโยชน์ทั้งประชาชน ผู้ประกอบการธุรกิจสตาร์ตอัพ ซึ่งจะมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลจะเข้าร่วมและะเกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า สำหรับตัวอย่างโครงการที่นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ เช่น สมาร์ทซิตี้ รถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย (สมาร์ทสคูลบัส) ที่ติดตั้งระบบตรวจจับวัตถุเคลื่อนไหว เพื่อป้องกันการลืมเด็กไว้ในรถเป็นต้น รวมถึงการพัฒนาเกมไปสู่กีฬาอีสปอร์ต โดยได้นำเกมไปจดเป็นกีฬาอีสปอร์ตตามกฎหมาย คาดว่าจะสามารถสร้างอาชีพได้มากขึ้นจากการทำธุรกิจใหม่
นอกจากนี้ จะมีการพัฒนาการนำข้อมูลสุขภาพ หรือประวัติการรักษาพยาบาล ขณะนี้หลายโรงพยาบาลนำระบบของดิจิทัลมาใช้มากขึ้น แต่กรณีที่ประชาชนย้ายการรักษาไปโรงพยาบาลอื่นๆ จากที่เคยรักษาข้อมูลจึงไม่เชื่อมโยงกัน เพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยาก
จึงจะมีการพัฒนาการเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าวด้วยเทคโนโลยี ถัดไปประชาชนจะสามารถเปิดประวัติการรักษาได้ทุกโรงพยาบาลที่เข้ารักษา รวมถึงสามารถเปิดประวัติการรักษาที่บ้านได้ โดยระบบนี้ได้พัฒนาแล้ว 200 โรงพยาบาล เป้าหมายปี 2566 คาดว่าจะครอบคลุมได้ทุกโรงพยาบาล
“ต่อไปจากที่มีสวัสดิการ 30 บาทรักษาทุกโรค จะขยายไปเป็น 30 บาทรักษาได้ทุกโรงพยาบาล”นายชัยวุฒิ กล่าว
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า กิจกรรมHACKaTHAILAND ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมตลอดโครงการฯ รวมกว่า 9 แสนคน สร้างมูลค่าผลกระทบทางเศรษฐกิจมากกว่า 780 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยกระดับ Online Learning Platform แหล่งการเรียนรู้ด้านดิจิทัลที่มีการอัปเดตชุดความรู้ด้านดิจิทัลให้ประชาชนร่วมยกระดับทักษะตนเองได้แล้ววันนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายทุกที่ทุกเวลาอย่างเท่าเทียม เรียนจบรับประกาศนียบัตรออนไลน์ เพื่อเปิดประตูสู่โอกาสการต่อยอดอาชีพ
โดยความพิเศษของปีนี้ ทุกคนจะได้พบกับ 8 หลักสูตรใหม่ 80 บทเรียน รวม 106 ชั่วโมงที่จะมาช่วยติดอาวุธทางความรู้ให้กับกำลังคนที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนประเทศทั้ง 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่ม Youth หรือ นักเรียนนักศึกษา เน้นสร้างเกราะป้องกันแก่เยาวชน นักเรียน และนักศึกษาที่มีอายุไม่เกิน 18 ปีให้รู้เท่าทันภัยที่แฝงมาในยุคดิจิทัล
2.กลุ่ม Future Career หรือ นักศึกษาและแรงงานใหม่ เน้นยกระดับทักษะความรู้ด้านดิจิทัลให้กับกลุ่มนักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบ หรือแรงงานใหม่ (First Jobber) เพื่อก้าวสู่ตลาดแรงงานแห่งโลกอนาคต
และ 3.กลุ่ม Digi-preneur หรือ ผู้ที่สนใจเป็นผู้ประกอบการ เน้นเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาจบใหม่และผู้ที่สนใจ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบดิจิทัล โดยในแต่ละกลุ่มจะมุ่งเน้นพัฒนาทักษะที่แตกต่างกันไปตามความต้องการ
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่แต่ละกลุ่มเรียนรู้ทักษะด้านดิจิทัลผ่าน HACKaTHAILAND Online Learning Platform แล้วจะเปิดเวทีให้คนรุ่นใหม่ร่วมประลองไอเดีย คิดค้นแนวทางการพัฒนาประเทศสู่ความยั่งยืนและสมดุล ก่อนพัฒนาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์/บริการดิจิทัลต้นแบบจากผู้ประกอบการยุคใหม่ ซึ่งการแข่งขันจะมีการตัดสินรอบสุดท้ายในเดือนสิงหาคม 2566 ประเมินว่ากำลังคนแต่ละกลุ่มจะสามารถพัฒนาไอเดียที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับประเทศไทยได้อย่างแน่นอน