นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคและที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.เขียนแสดงความเห็นในไลน์กรณีซูเปอร์โพลเปิดเผยผลสำรวจภาพจดจำ”ที่สุดแห่งปีและที่สุดของพรรคการเมือง”วันนี้ว่า ขอขอบคุณซูเปอร์โพลและพี่น้องประชาชนที่โหวตจดจำพรรคประชาธิปัตย์เป็นที่สุดของพรรคการเมืองแห่งปีในฐานะสถาบันทางการเมืองหลักของประเทศและเป็นพรรคขวัญใจของเกษตรกร ไม่มีประวัติด่างพร้อยเรื่องทุจริตและนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นผู้นำพรรคการเมืองที่ประชาชนเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาปากท้อง รายได้และหนี้สินของประชาชนอันดับที่3
“กำลังใจของพี่น้องประชาชนที่มอบให้ในครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะแปรเปลี่ยนเป็นพลังในการมุ่งมั่นทุ่มเททำงานพัฒนาและแก้ไขปัญหาของประชาชนด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อนำประเทศฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจและก้าวข้ามความขัดแย้งทางการเมืองให้สำเร็จโดยเร็วให้สมกับความไว้วางใจของประชาชน
พร้อมกันนี้ ขอแสดงความยินดีกับพรรคภูมิใจไทยและนายอนุทิน ชาญวีระกุล หัวหน้าพรรคที่ได้รับการโหวตเป็นพรรคการเมืองแห่งปีในภาพการจดจำการบริหารวัคซีนโควิดและผู้นำอันดับหนึ่งที่เชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาปากท้องรายได้และหนี้สินของประชาชน ก็ถือโอกาสวันดีๆของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยขอบิณฑบาตปมปัญหา2พรรคเพราะประชาชนไม่อยากเห็นความขัดแย้งทางการเมือง สัปดาห์หน้าจะเอาขนมหม้อแกงเมืองเพชรไปฝากพร้อมจับเข่าสนทนากันครับ”นายอลงกรณ์เขียนทิ้งท้ายในที่สุด
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ที่สุดแห่งปี ที่สุดแห่งพรรคการเมือง “กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,190 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 14 – 17 ธ.ค.2565 เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันการเมืองในระบอบประชาธิปไตยมายาวนานที่สุด พบว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ร้อยละ 56.3 รองลงมาคือ พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 20.4 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 18.9
และอื่น ๆ ร้อยละ 4.4 ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ พรรคก้าวไกล เป็นต้น
เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ถูกคาดหวังให้ช่วยเหลือเกษตรกร พบ 5 อันดับแรกที่มากที่สุดคือ พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 43.0 รองลงมาคือ พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 39.8 พรรคเพื่อไทยร้อยละ 30.7 พรรคพลังประชารัฐร้อยละ 26.9 และพรรคก้าวไกล ร้อยละ 9.6
ที่น่าสนใจคือ ที่สุดภาพจำของประชาชนต่อพรรคการเมือง พบว่า ร้อยละ 72.7 ระบุ พรรคภูมิใจไทย โดดเด่นบริหารจัดการวัคซีนโควิด ณ สถานีกลางบางซื่อ และมีผลงานโดดเด่นดูแลบุคลากรการแพทย์ อสม. ในระดับพื้นที่ห่างไกล นอกจากนี้ ร้อยละ 58.1 ระบุ พรรคภูมิใจไทย รักชาติบ้านเมือง ปกป้องเชิดชูสถาบัน เสาหลักของชาติมากที่สุด
ในขณะที่ ร้อยละ 43.9 ระบุ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นขวัญใจเกษตรกร ไม่มีประวัติด่างพร้อยเรื่องทุจริต ที่น่าเป็นห่วงคือ พรรคการเมืองที่มีความขัดแย้งสูงภายในพรรค ส.ส.หรือผู้แทนราษฎรย้ายออก ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 46.9 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 38.0 และพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 36.2 อย่างไรก็ตาม พรรคการเมืองที่ ส.ส. หรือ ผู้แทนราษฎร ย้ายเข้า มากสุดได้แก่ พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 54.9 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 41.4 และพรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 40.6 ที่น่าสนใจคือ ผู้นำพรรคการเมืองที่ประชาชนวางใจเป็นมือแก้ปัญหาปากท้อง รายได้และหนี้สินของประชาชนได้ คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 61.4 รองลงมาคือ นางสาว แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 38.8 และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ร้อยละ 35.8 ตามลำดับ
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า ที่สุดแห่งปี ที่สุดแห่งพรรคการเมือง เป็นหัวข้อโพลที่ทำให้เห็นภาพแห่งการรับรู้และภาพจำของประชาชนต่อพรรคการเมืองและผู้นำพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อประชาชนตลอดปีที่ผ่านมา โดยพบว่า” พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทำงานการเมืองมายาวนานในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและเป็นขวัญใจเกษตรกรไม่มีประวัติด่างพร้อยเรื่องทุจริต”.