สสว. จับมือกรมสรรพากร ขยายโอกาส SME กลุ่มบุคคลธรรมดา ให้เข้าสู่ตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาช่วยลดระยะเวลาการพิจารณาหนังสือรับรองฯ THAI SME-GP เหลือเพียง 24-48 ชั่วโมง เชื่อมั่นช่วย SME กลุ่มบุคคลธรรมดากว่า 2.3 ล้านรายทั่วประเทศให้มีโอกาสเข้าถึงตลาดภาครัฐเพิ่มขึ้น
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวภายหลังการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สำหรับการอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพื่อการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐว่า ตามที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SME เข้าถึงตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง กรมสรรพากร จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะมีส่วนร่วมกับ สสว. ในการขับเคลื่อนเพื่อขยายโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SME ทั่วประเทศ โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับปรุง/ปรับใช้และอำนวยความสะดวกให้เอสเอ็มอีในการขอรับหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนเอสเอ็มอีเพื่อการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐจาก สสว. ในระบบ THAI SME-GP
โดยประโยชน์ที่ได้จากความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยลดกระบวนการและขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติหนังสือรับรองเอสเอ็มอี เพื่อการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (ประเภทบุคคลธรรมดา) ให้มีความสะดวก รวดเร็ว
สร้างโอกาสให้เอสเอ็มอี นำไปใช้สำหรับการขอรับสิทธิประโยชน์ในการแข่งขันในตลาดภาครัฐมากยิ่งขึ้น นอกจากจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้มีความรวดเร็ว ลดขั้นตอนในการได้รับสิทธิประโยชน์ในการเข้าสู่ตลาดภาครัฐแล้ว กรมสรรพากรและ สสว. ยังพร้อมร่วมมือกันในการพัฒนาศักยภาพให้กับเอสเอ็มอีโดยการให้ความรู้เกี่ยวกับภาษีอากร สิทธิประโยชน์ทางภาษี และการปฏิบัติหน้าที่ทางภาษีสำหรับเอสเอ็มอี ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพเอสเอ็มอี ของไทยให้มีศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา สสว. ได้พัฒนาระบบทะเบียนเอสเอ็มอี เพื่อการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (www.thaismegp.com หรือระบบ THAI SME-GP) เพื่อเป็นช่องทางสำคัญให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
ทั่วประเทศ ได้เข้าสู่ตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมกับกรมบัญชีกลาง จัดให้มีสิทธิประโยชน์สำหรับเอสเอ็มอี เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในตลาดภาครัฐ โดยเงื่อนไขสำคัญคือผู้ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์จะต้องเป็นเอสเอ็มอีที่ขึ้นทะเบียนและได้รับหนังสือรับรองเอสเอ็มอีเพื่อการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐจาก สสว. เรียบร้อยแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาโดยเฉพาะขั้นตอนการพิจารณาหนังสือรับรองฯ จะต้องใช้ระยะเวลา 7-14 วันทำการ
หลายครั้งขั้นตอนนี้เป็นอุปสรรคให้ผู้ประกอบการไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐได้ทันการณ์ และ สสว. ได้รับเสียงเรียกร้องให้ช่วยลดขั้นตอนส่วนนี้ให้มีความรวดเร็วขึ้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานงานดังกล่าว สสว. และ กรมสรรพากร จึงได้ร่วมกันนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการอำนวยความสะดวกการขึ้นทะเบียนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ประเภทบุคคลธรรมดา ที่มีจำนวนไม่น้อยกว่า 2.3 ล้านรายทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยลดกระบวนการและขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติหนังสือรับรองเอสเอ็มอีเพื่อการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ให้มีความสะดวก รวดเร็ว โดยใช้ระยะเวลาในการพิจารณาเพียง 24-48 ชั่วโมง เท่านั้น ช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถขอรับสิทธิประโยชน์ในการแข่งขันและเข้าถึงตลาดภาครัฐได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมการเข้าสู่ตลาดภาครัฐแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้เอสเอ็มอีเข้าสู่ระบบ (SME Formalization) ส่งผลดีต่อการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในระยะยาวอีกด้วย
สำหรับสิทธิประโยชน์ของเอสเอ็มอีที่ขึ้นทะเบียนเพื่อการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐไว้กับ สสว. ประกอบด้วย การได้แต้มต่อในการเสนอราคาได้สูงกว่าผู้ประกอบการทั่วไปที่เสนอราคาต่ำสุด ไม่เกินร้อยละ 10 และหากเป็นผู้ประกอบการที่ขายสินค้าที่ได้รับการรับรองเป็นสินค้า Made in Thailand (MiT) จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ด้วยก็จะได้รับแต้มต่อเพิ่มเป็นไม่เกินร้อยละ 15 นอกจากนี้การจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาจัดซื้อจัดจ้างกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเป็นลำดับแรกก่อน
ปัจจุบันระบบ THAI SME-GP ของ สสว. มีผู้ประกอบการ SME ขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 140,000 กิจการ จำนวนสินค้าและบริการรวมกว่า 1,000,000 รายการ โดยในรอบปี 2564 ผู้ประกอบการ SME ที่ขึ้นทะเบียนได้รับการจัดซื้อจัดจ้างจากหน่วยงานของรัฐคิดเป็นมูลค่า 551,365.50 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564) และในรอบ 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2564-
30 มิถุนายน 2565) ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับการจัดซื้อจัดจ้างจากหน่วยงานของรัฐคิดเป็นมูลค่า 393,284.07 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการ SME ที่สนใจและต้องการได้รับสิทธิประโยชน์เพื่อเข้าสู่ตลาดภาครัฐ สามารถขึ้นทะเบียนได้ด้วยตนเองที่ www.thaismegp.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สสว. Call Center โทร. 1301 กด 1