นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า ตามที่ได้ถูกเชิญตัวไปกองทัพภาคที่ 1 เพื่อให้คำแนะนำทางเศรษฐกิจแก่ทีมเศรษฐกิจของ คสช. นำโดย นาย กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วย รมต. ด้านเศรษฐกิจ จากการแลกเปลี่ยนข้อมูล ทีมเศรษฐกิจ คสช. พยายามจะโน้มน้าวให้ตนเห็นว่าเศรษฐกิจไม่ได้แย่อย่างที่เป็นอยู่ โดยนำตัวเลขเศรษฐกิจและแนวคิดมาแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งทำให้ตนยิ่งเป็นห่วงเพิ่มขึ้นเพราะว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่ คสช. ได้รับไม่ตรงกับความเป็นจริง และไม่ตรงกับข้อมูลสาธารณะที่หน่วยงานของรัฐประกาศ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุให้ รัฐบาลและคสช. เข้าใจผิดคิดว่าเศรษฐกิจดี และคิดว่าตนโจมตีรัฐบาล โดยทีมเศรษฐกิจ คสช. ยืนยันว่าการลงทุนเอกชนถึงแม้ลดลง แต่ไม่ได้ลดลงมาก ซึ่งตรงข้ามกับข้อมูลที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศว่าการลงทุนจากต่างประเทศในปี 2559 ลดลง 63% และ บีโอไอ บอกการลงทุนจริงในไตรมาสแรกปีนี้เหลือเพียง 80,000 ล้านบาท ซึ่งทีมเศรษฐกิจ คสช. ไม่ทราบตัวเลขนี้เลย ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกใจมาก ทั้งนี้สาเหตุหลักของการลดลงน่าจะมาจากการที่ไม่สามารถเจรจาการค้ากับต่างประเทศได้ ซึ่งทีมเศรษฐกิจ คสช ยอมรับเองว่ามีบริษัทในยุโรป เช่น ในเยอรมันหลายบริษัทอยากมาลงทุนแต่รัฐบาลเขาไม่ยอมให้มาลงทุนในไทยเพราะปัญหาภาวะการเมืองปัจจุบัน ทั้งนี้ ทีมเศรษฐกิจ คสช. บอกว่าการส่งเสริมลงทุนในปี 2559 อยู่ที่ 8 แสนล้านบาท ไม่ใช่ 5.84 แสนล้านบาท ตนจึงบอกให้ดูในประกาศของ บีโอไอ เมื่อต้นปี ที่บอกว่า 5.84 แสนล้านบาท เท่านั้น หาก บีโอไอ ประกาศผิด ก็ต้องให้บีโอไอแก้ไข ซึ่งก็ไม่น่าจะผิดได้ และทีมเศรษฐกิจ คสช. ยอมรับว่าการส่งออกยังลดลงมาก เพราะในปี 2558 ลดลง 5.78% และถึงแม้จะเริ่มฟื้นแต่ก็ยังไม่ฟื้นเท่าเดิม และก็เห็นตรงกันว่าการเจริญเติบโตที่ 3% กว่าถือว่าต่ำมาก จะทำให้ประชาชนลำบาก ตามที่องค์กรระหว่างประเทศเตือน อีกทั้งก็โตในเฉพาะบริษัทใหญ่ๆ ประชาชนส่วนใหญ่ยังลำบาก ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้น
โดยรัฐบาลพยายามจะทำให้โตถึง 5% ซึ่งตนแนะนำว่าก็คงต้องอาศัยการลงทุนเอกชนและการส่งออกให้เพิ่มขึ้น ถ้าการลงทุนไม่เพิ่มการส่งออกก็จะเพิ่มยาก ซึ่งหากอาลีบาบาจะมาลงทุนในนามลาซาดาร์มากกว่าที่ลงทุนในมาเลเซีย ตนก็ได้แนะนำให้ ทีมเศรษฐกิจ คสช. ขอให้ นาย แจ๊ค มา ช่วยประกาศเหมือนที่ประกาศกับมาเลเซีย จะได้เป็นภาพที่ดีของประเทศไทย ทั้งนี้ตนยังแสดงความเป็นห่วงเรื่อง พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ และ ซิงเกิลเกตเวย์ และไม่อยากให้ประเทศไทยคิดเลียนแบบแนวทางประเทศจีนเพราะจีนมีการพัฒนาที่ดีขึ้นจากเดิม ในขณะที่ไทยจะเป็นการก้าวถอยหลังหากจะเลียนแบบประเทศจีน ซึ่งจะทำให้ต่างประเทศไม่มั่นใจ
ทั้งนี้ตนแปลกใจที่ทีมเศรษฐกิจ คสช. เชื่อว่า หากทำให้นายพิชัย เชื่อว่าเศรษฐกิจดีได้แล้ว แสดงว่าเศรษฐกิจจะดีเลย ซึ่งไม่น่าจะถูกต้อง เพราะการที่ คสช. คิดว่ามีประชาชนเชื่อถือและติดตามความเห็นของตนจำนวนมาก ก็เพราะตนให้ข้อมูลตามความจริงที่ประชาชนสัมผัสได้และคาดการณ์ได้ถูกต้องตามข้อมูลเท่านั้น และอยากให้ พลเอกประยุทธ์ เปิดใจรับฟังและรับข้อมูลโดยตรงจากหน่วยงานรัฐ เพราะขนาดข้อมูลสำคัญทีมเศรษฐกิจ คสช. กลับไม่ได้รับและที่ได้รับก็อาจไม่ตรงกับความจริง จะเป็นปัญหาใหญ่ที่จะทำให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ และทำให้ประชาชนลำบากกันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งอาจจะรวมถึงข้อมูลรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ด้วย ทั้งนี้ คสช. ได้ขอให้ตนลดการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลลง ตนจึงให้โอกาสทีมเศรษฐกิจรัฐบาลได้ทำงาน หากยังไม่ดีขึ้น ตนคงต้องออกมาท้วงติงเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน