ฝ่ายค้าน ร้อง ป.ป.ช. สอบ "พล.อ.ประยุทธ์-ศักดิ์สยาม" ละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฮั้วประมูล กรณีส่วนต่าง 6.8 หมื่นล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม
ที่สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นายนิคม บุญวิเศษ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อขอให้ตรวจสอบ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และพวก ในความผิดว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (ฮั้วประมูล) ความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริต กรณีการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์)
นายสุรเชษฐ์ ระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน มีความเห็นตรงกันว่าเป็นเมกะดีล ในตำนานของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ 2 เนื่องจากเป็นการสร้างสิ่งเดียวกัน ประมูลสิ่งเดียวกัน 2 ครั้ง แต่กลับมีส่วนต่างเกิดขึ้น 6.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่รัฐจ่ายอุดหนุนให้กับเอกชน เป็นวงเงินที่มากเกินความจำเป็น และตั้งข้อสังเกตว่า จำนวนเงินที่มากอาจเกิดเงินทอน ย้อนกลับไปที่กระเป๋าของนายทุน หรือ พรรคการเมือง เพื่อนำไปใช้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป จึงอยากให้ช่วยกันติดตาม พร้อมย้ำว่าที่ออกมาต่อสู้ในเรื่องนี้ ก็เพื่อปกป้องไม่ให้เงินภาษีของประชาชนเสียหายมากเกินจำเป็น
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ และมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ตั้งแต่มีการประมูล กำหนดเกณฑ์ในรอบแรก และไปเปลี่ยนเกณฑ์การแข่งขันกลางอากาศ เมื่อประมูลรอบ 2 ก็เกิดการกีดกันการแข่งขัน ไม่ให้ BTS เข้าร่วม ทั้งที่รู้ดีว่าผู้ให้บริการเจ้าใหญ่ในประเทศไทยมีแค่ 2 เจ้า คือ BTS กับ BEM หาก BTS ไม่เข้าร่วม BEM จะตั้งราคาเท่าไหร่ก็ได้ รวมถึงไม่มีฐานในการเทียบราคากลาง ดังนั้นเมื่อเกิดการกีดกัน และราคากลางไม่สมเหตุสมผล ก็ทำให้รัฐเกิดความเสียหายมากเกินจำเป็น จึงถือเป็นความผิดที่ชัดเจนและเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่จะต้องเข้ามาตรวจสอบ