นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า เพื่อเป็นการป้องกันการเมาแล้วขับซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ นำไปสู่การบาดเจ็บและอาจถึงขั้นสูญเสียชีวิต รัฐบาลจึงได้ออกมาตรการและเตรียมพร้อมเรื่องการจราจร เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน สำหรับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกประกาศแนะเรื่องกฎหมายต้องรู้ กรณีเมาแล้วขับว่า บุคคลทั่วไปที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 mg% และผู้ที่อายุน้อยกว่า 20 ปี หรือมีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 20 mg% ถือว่าเมาแล้วขับ หากปฏิเสธการเป่าตรวจวัดแอลกอฮอล์ ถือว่าเท่ากับเมา
สำหรับกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ.2565 ได้มีการเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำกรณี “เมาแล้วขับ” โดยกำหนดบทลงโทษผู้เมาแล้วขับ ดังนี้ 1.ทำผิดครั้งแรก อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000 - 20,000 บาท 2.ทำผิดซ้ำข้อหา "เมาแล้วขับ" ภายใน 2 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งแรก เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000 - 100,000 บาท โดยศาลจะลงโทษจำคุก และปรับด้วย พร้อมถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ 3.เมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ เสียชีวิต โทษสูงสุด 10 ปี ปรับ 200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที
ดังนั้นในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2566 ขอให้ประชาชนขับขี่ปลอดภัยอย่างมีสติ เมาไม่ขับ เคารพกฎจราจร และมีน้ำใจกับเพื่อนร่วมทาง หากต้องการความช่วยเหลือหรือแจ้งเหตุสามารถติดต่อสายด่วนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนี้โทร. 1193 ตำรวจทางหลวง โทร. 1197 บก.จร. ( กทม.และปริมณฑล ) โทร 191 หรือ 1599 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ