ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 11 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายนิติพัฒน์ ชูกล้ากสิกรณ์ พนักงานสืบสวนสอบสวน กกต.กาญจนบุรี กล่าวว่า จากกรณีที่ กกต.ได้ มีมาตรการเข้มงวดกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภายใน 180 วันห้ามกระทำการอันไม่สุจริตฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ซึ่งจะมีรางวัลให้กับผู้แสวงหาข้อมูลจะมีโอกาสได้รับเงินรางวัลแก่ผู้ชี้เบาะแสผู้กระทำการอันไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรมในการเลือกตั้ง กกต.มีระเบียบตามราชกิจจานุเษกษา หน้าที่ 6 เล่มที่ 136 ตอนร้ 37 ก. ลงวันที่ 22 มีนาคม 2565 ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการแสวงหาข้อมูลข่าวสารและการให้รางวัลแก่ผู้ชี้เบาะแสการกระทำการอันไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรมในการเลือกตั้งเร็วๆนี้
นายนิติพัฒน์ ชูกล้ากสิกรณ์ พนักงานสืบสวนสอบสวน กล่าวอีกว่า ทางทีม กกต.กาญจนบุรี นำโดย นาย ศรัณยู อาทิตยศรัณยากร ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรี นายฤทธิรงค์ แก่นจันทร์ หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวน นายนิรันดร์ บุญราช พนักงานการเลือกตั้งชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานจัดการเลือกตั้งและการมีส่วนร่วม นายธนกฤต สนองสิทธิ์ นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ นายจิติพล ประดิษฐ์พันธ์ พนักงานการเลือกตั้งชำนาญการ และคณะ ชุดเคลื่อนที่เร็ว ขุดหาข้อมูลข่าวสาร มีความพร้อมเต็มอัตรา
นายนิติพัฒน์ ชูกล้ากสิกรณ์ พนักงานสืบสวนสอบสวน กกต.กาญจนบุรี กล่าวตอนท้ายว่า อยากให้ประชาชนรับหลักร้อย มาแลกหลักล้าน โดยเอาหลักฐานมาให้ กกต. จะดำเนินการกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง จนถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ / ศาลฎีกา มีคำสั่ง ผู้ชี้เบาะแสรับไปเลยตั้งแต่ 100,000 บาท จนถึงเกือบ 1,000,000 บาท เรื่องนี้ขอเตือนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อย่ากระทำการใดอันเป็นการฝ่าฝืนกฎระเบียบการเลือกตั้ง เพราะที่ผ่านมา ตนจับจริงและเคยเป็นข่าวโด่งดังทั่วประเทศมาแล้ว
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์