วันที่ 13 ม.ค.66 ที่สำนักงาน ป.ป.ช.จ.ขอนแก่น ซึ่งตั้งอยู่ ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น น.ส.ศรัญภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี เจ้าพนักงานพัสดุระดับชำนาญการ ใน อบต.แห่งหนึ่ง ที่ปัจจุบันถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการร้องเรียนกรณีการเบิกจ่ายอันเป็นเท็จและการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ให้กับสื่อมวลชน ขณะเดินทางมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ปปช.ประจำจังหวัดขอนแก่น
น.ส.ศรัญภัทร กล่าวว่า การร้องเรียนกรณีการเบิกจ่ายอันเป็นเท็จและการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมนั้น มีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่แล้วทั้งนายอำเภอและ ผวจ.ขอนแก่น แต่พฤติกรรมของนายก อบต.ที่ตนสังกัดยังไม่เปลี่ยนแปลง จึงนำเรื่องมาร้องเรียนที่ ปปช.ประจำ จ.ขอนแก่น เพราะเชื่อว่าน่าจะเป็นหน่วยงานที่ให้ความเป็นธรรมกับบุคลากรเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานได้
"การร้องเรียนการเบิกจ่ายอันเป็นเท็จนั้น เนื่องจากมีการประชุมอบรม ที่ จ.อุดรธานี แล้วนายกฯ ทำเรื่องเบิกเงินเพื่อใช้ในการไปประชุม โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางไปประชุม ทั้งที่รถคันดังกล่าวไม่มีอยู่จริง เมื่อทักท้วงก็ได้รับคำตอบว่า เอารถไปซ่อมอยู่ ซึ่งถ้าซ่อมจริงก็น่าจะชี้แจงรายละเอียดได้ว่าซ่อมอะไรไปบ้าง จึงไม่มีคำตอบ ก็เท่ากับว่า นายกอบต. เบิกจ่ายอันเป็นเท็จ เพราะรถไม่มีอยู่จริง และเงินที่เบิกไปเป็นเงินงบประมาณของทางราชการที่มาจากภาษีของประชาชน"
น.ส.ศรัญภัทร กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องการจ้างงานที่ไม่เหมาะสมมาทำงาน จ้างคนที่ไม่มีความสามารถมาทำงาน เช่น จ้างคนมาขับรถตู้ แต่เขาขับรถไม่ได้ เมื่อถูกท้วงติง นายกฯก็มีคำสั่งย้ายออกจากตำแหน่งเดิม ไปทำหน้าที่ที่ไม่ถนัด เพราะตนเห็นความไม่เหมาะสม จึงท้วงติงไป นายกฯก็มีคำสั่งที่ 504/2565 ลงวันที่ 17 ต.ค.2565 ให้ตนที่เป็นข้าราชการ ในตำแหน่งเจ้าพนักงานพัสดุระดับชำนาญการปฏิบัติหน้าที่มา 18 ปี ซึ่งไม่เคยมีปัญหากับ นายกฯคนไหน ไปปฏิบัติหน้าที่ในกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รวมถึงข้าราชการและเจ้าหน้าที่อีกหลายคน ที่ถูกย้ายตำแหน่งหน้าที่ที่ไม่เหมาะสม บางคนต้องย้ายตัวเองออกนอกพื้นที่
น.ส.ศรัญภัทร กล่าวอีกว่า ทุกๆเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนายกฯคนปัจจุบัน นั้นมีหลักฐาน มูลความผิด จึงยื่นเรื่องร้องเรียน แล้วยังถูกข่มขู่จากคนใกล้ชิดของนายกฯด้วยการเอาปืนใส่ในกระเป๋าแล้วมาวางบนโต๊ะทำงานพร้อมกับพูดว่า ใครที่มีเรื่องกับนายกฯระวังตัวให้ดี มันจึงเท่ากับว่า ตนถูกคนของนายกฯข่มขู่ แม้ไม่ได้บอกว่าจะฆ่าหรือทำร้าย แต่การเอาปืนมาแล้วพูดแบบนี้ใครๆก็รู้ว่าขู่เอาชีวิต
“ที่ผ่านมากลัวเพราะเขาเป็นนายกฯ และได้รับการเลือกตั้งมาตำแหน่งในนายกฯในปี 2565 ก็มีปัญหาตามมามากมาย ข้าราชการหลายคนย้ายออกนอกพื้นที่ บางเรื่องนายกก็สั่งให้ทำหนังสือย้อนหลัง ทั้งที่เหตุ วัน เวลา เดือนมันผ่านไปแล้วนายกฯก็ยังสั่งให้ทำ จึงต้องยื่นเรื่องต่อ ปปช. ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับนายกฯคนนี้ และขอให้พ้นจากตำแหน่งโดยเร็ว และตอนนี้ไม่กลัวแล้ว ขอทำทุกอย่างให้ความจริงปรากฏ คนไม่ดี ไม่ซื่อสัตย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ก็ไม่ควรมานั่งกินเงินเดือน ที่มาจากภาษีของประชาชน”