การประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติในวันนี้ พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้กล่าวถึงการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ซึ่งสังคมให้ความสนใจว่า กฎหมายดังกล่าวถือเป็นเรื่องจำเป็นที่ภาครัฐจะต้องปรับปรุงเพื่อบริหารจัดการและจัดระบบแรงงานต่างด้าวให้เป็นมาตรฐานสอดคล้องกับกฎกติการะหว่างประเทศ จึงขอให้ทุกหน่วยงานโดยเฉพาะกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ได้ไปศึกษาในรายละเอียดของเรื่องดังกล่าวสำหรับใช้เป็นแนวทางในการประสานการปฏิบัติงานร่วมกับส่วนราชการต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีแรงงานต่างด้าวทำงานอยู่เป็นจำนวนมากรวมถึงพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ ให้ช่วยชี้แจงประชาชนได้เข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของ พ.ร.ก.ดังกล่าว ที่จะช่วยให้การควบคุมและดูแลแรงงานต่างด้าวเป็นมาตรฐานยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดผลดีทั้งด้านความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจโดยรวมในระยะยาว ในขณะเดียวกันขอให้ช่วยกันกำกับดูแล อย่าให้มีการสร้างความเข้าใจผิดหรือการหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้
เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยังได้กล่าวถึงการสกัดกั้นยาเสพติดที่เป็นภารกิจเร่งด่วนที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เป็นผลให้สถิติการจับกุมในรายสัปดาห์ ทั้งพื้นที่ชายแดน พื้นที่รอบนอกและพื้นที่ในเมืองยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งทุกหน่วยจะต้องดำรงความเข้มข้น
ในเรื่องดังกล่าวต่อไป สำหรับการสกัดกั้นยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน ให้ทุกกองทัพภาคได้ใช้กลไกความร่วมมือของคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นและส่วนภูมิภาคในการประสานงานกับเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด ผลักดันให้เกิดความร่วมมือในทางปฏิบัติ ตามความเหมาะสมของแต่ละภูมิภาค โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ ๓ ให้ประสานความร่วมมือผ่านกลไกดังกล่าวเป็นกรณีพิเศษด้วย นอกจากนี้ ให้ทุกหน่วยตรวจสอบพื้นที่ในความรับผิดชอบและพื้นที่ที่ออกปฏิบัติงาน ที่อาจเป็นแหล่งพักรอยาเสพติดเพื่อเข้าดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยังได้กล่าวถึงนโยบายในเรื่องการจัดระเบียบสังคมที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ได้ปฏิบัติงานร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยในช่วงจากนี้ไปให้พิจารณาส่งมอบความรับผิดชอบหรือปรับเปลี่ยนพื้นที่การปฏิบัติงานให้เหมาะสมกับสภาวะปัจจุบัน และให้หน่วยงานหลักที่มีหน้าที่โดยตรงเข้ากำกับดูแลและดำเนินงานไปตามกระบวนการปกติ โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จะยังคงดูแลในภาพรวมของความสงบเรียบร้อยและเข้าไปร่วมแก้ไขปัญหาหรือจัดระเบียบในบางพื้นที่ที่จะต้องใช้การบูรณาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การจัดระเบียบสังคมเกิดความยั่งยืนและประชาชนได้รับ
การดูแลโดยหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง อย่างไรก็ตามในเรื่องความเดือดรอนของประชาชนนั้น กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจะยังคงดูแลและช่วยเหลือเช่นเดิม ซึ่งเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กำชับให้การดำรงความต่อเนื่องในการเป็นที่พึ่งของประชาชน ดูแลความสงบเรียบร้อย ภายใต้การใช้อำนาจหน้าที่อย่างเหมาะสม ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความรักความสามัคคี โดยเฉพาะในเทศกาลวันเข้าพรรษานี้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจะเป็นศูนย์กลางในการรวมพลังทุกภาคส่วนและประชาชนร่วมกันจัดกิจกรรมทำความสะอาด บูรณะศาสนสถาน เพื่อคงไว้ซึ่งประเพณีอันดีงามและเติมเต็มความรักความสามัคคีให้กับสังคมไทย