“วันตรุษจีน” ซึ่งปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566 เชื่อว่าจะมีความคึกคักกว่า 2 – 3 ปี ที่ผ่านมา หลังจากผ่านพ้นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ได้มีการคาดการณ์ใช้จ่ายเงินในช่วง “วันตรุษจีน” ปีนี้ โดย “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ระบุว่า คาดว่าเม็ดเงินใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนของคนกรุงเทพฯปี 2566 อยู่ที่ 12,330 ล้านบาท หรือขยายตัว 5% เมื่อเทียบกับตรุษจีนปีก่อน ซึ่งเป็นการกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งในรอบ 3 ปี เป็นผลจากราคาสินค้าสูงขึ้น 3.5% เทียบกับปี 2565 ทำให้คนระมัดระวังกับการใช้จ่าย โดยสำรองเงินซื้อเครื่องเซ่นไหว้เพิ่มขึ้น แต่ปรับลดการแจกอั่งเปาลง ขณะที่จำนวนคนกรุงเทพฯ ที่เข้าร่วมกิจกรรมช่วงตรุษจีนอาจเพิ่ม 1.5% จากปีก่อน โดยเฉพาะการกลับมาทำกิจกรรมท่องเที่ยว ทำบุญ ทานข้าวนอกบ้านมากขึ้น ซึ่งมีแรงหนุนจากสถานการณ์โควิดที่ผ่อนคลายและมาตรการช้อปดีมีคืน อย่างไรก็ตามภายหลังหมดเทศกาลตรุษจีนคาดว่าคนกรุงเทพฯจะกลับมาวางแผนใช้จ่ายอย่างรัดกุมมากขึ้น ท่ามกลางค่าครองชีพที่ยังสูง
รายงานระบุว่า ช่วงตรุษจีนปี 2566 ทิศทางราคาเครื่องเซ่นไหว้ส่วนใหญ่ยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นเมื่อเทียบกับตรุษจีนปีก่อน จากปัจจัยต้นทุนการผลิตที่ยังสูง โดยเฉพาะผัก-ผลไม้บางรายการที่นิยมในช่วงตรุษจีนยังมีราคาปรับเพิ่มสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% เช่น กล้วยหอมทอง ส้มเขียวหวาน ผักกาดขาว ขึ้นฉ่าย เป็นต้น ขณะที่กลุ่มเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อไก่ ราคาน่าจะปรับขึ้นราว 10% ส่วนเนื้อหมู แม้จะมีราคาย่อลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดในสุกร แต่โดยรวมแล้วราคาก็ยังยืนตัวสูงอาจส่งผลให้คนกรุงเทพฯเผชิญปัจจัยกดดันมาจากราคาสินค้าที่มีแนวโน้มขยับสูงขึ้น สอดคล้องกับแบบสำรวจระบุว่าปัจจัยที่กระทบกับพฤติกรรมการจับจ่ายในช่วงตรุษจีนปี 2566 มากสุด ได้แก่ ราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้น กำลังซื้อและค่าครองชีพ ตลอดจนความกังวลต่อการกลับมาระบาดอีกครั้งของโควิด ตามลำดับ
ขณะที่ภาพการท่องเที่ยวของไทย ที่เวลานี้ประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง ที่นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนต้องการที่จะเดินทางมาร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีน ซึ่งทาง “บมจ.ท่าอากาศยานไทย” เผยว่า ได้มีสายการบินจากจีน จองตารางบิน (สลอต) ช่วงเทศกาลตรุษจีน ประมาณ 386-388 เที่ยวบิน ผู้โดยสารจีนรวมประมาณ 1 แสนคน
ตอกย้ำความมั่นใจถึงนักท่องเที่ยวจีนที่จะมาประเทศไทย “นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ” รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานเทศกาลตรุษจีนใน 5 จังหวัดหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ ราชบุรี สุพรรณบุรี ภูเก็ต และสงขลา สะท้อนถึงการต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่กำลังกลับมาเที่ยวประเทศไทย และการฉลองของคนไทยเชื้อสายจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วย และจากการทำแบบสอบถาม และพบว่า ชาวจีนคิดถึงและต้องการเข้ามาเที่ยวประเทศไทยมากเป็นอันดับ 1 จึงมั่นใจว่าคาดการณ์ไตรมาส 1/2566 จะมีชาวจีนเข้ามาเที่ยวประเทศไทยถึง 3 แสนคนแน่นอน
ส่วนการใช้จ่ายเงินในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ธนาคารต่างๆเตรียมเงินสำรองไว้ให้ใช้จับจ่ายเต็มที่ “ธนาคารไทยพาณิชย์” (SCB) แจ้งว่า เนื่องในโอกาสเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ได้เตรียมความพร้อมในการสำรองธนบัตรเพื่อรองรับการใช้บริการของลูกค้า จำนวน 38,600 ล้านบาท โดยเป็นการสำรองที่ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า แบ่งเป็นในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 15,914 ล้านบาท และในเขตภูมิภาค 22,686 ล้านบาท แบ่งเป็นตู้เอทีเอ็ม 30,700 ล้านบาท และสาขา 7,900 ล้านบาท โดยปัจจุบันธนาคารมีสาขาทั้งสิ้น 766 สาขา และมีเครื่องเอทีเอ็มรวม 11,108 เครื่อง
“ธนาคารกสิกรไทย” (KBANK) แจ้งเตรียมสำรองเงินสดสำหรับให้บริการในสาขาและเครื่องเอทีเอ็มเพื่อรองรับการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน 19-22 มกราคม 2566 รวมทั้งสิ้น 37,400 ล้านบาท ในจำนวนนี้ แบ่งเป็นการสำรองเงินสดผ่านช่องทางสาขา จำนวน 16,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินสำรองสำหรับสาขาในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 9,000 ล้านบาท และสาขาในเขตภูมิภาคจำนวน 7,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมี 824 สาขา ทั่วประเทศ และสำรองเงินสดเพื่อเครื่องเอทีเอ็ม (K-ATM) ที่มีอยู่จำนวนกว่า 9,000 เครื่องทั่วประเทศ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 21,400 ล้านบาท แบ่งเป็นการสำรองเพื่อบรรจุเครื่องเอทีเอ็มในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 9,400 ล้านบาท และเอทีเอ็มในเขตภูมิภาคจำนวน 12,000 ล้านบาท
“ธนาคารกรุงศรีอยุธยา” (BAY) แจ้งสำรองเงินสดเพื่อรองรับการเบิกถอนเงินของลูกค้าและประชาชนทั่วไปผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม และสาขาของธนาคารทั่วประเทศ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2566 ระหว่างวันที่ 17-23 มกราคม 2566 (จำนวน 7 วัน) รวม 10,240 ล้านบาท ทั้งนี้ แบ่งเป็นเงินสดสำรองสำหรับบริการผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม จำนวน 7,842 ล้านบาท และช่องทางสาขาของธนาคาร จำนวน 2,398 ล้านบาท โดยปัจจุบันธนาคารมีสาขา จำนวน 574 สาขา และเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม จำนวน 5,666 เครื่องทั่วประเทศ
“ธนาคารกรุงเทพ” (BBL) แจ้งว่า ธนาคารได้สำรองเงินสดไว้ให้บริการแก่ลูกค้าเพิ่มเติมจากภาวะปกติโดยรวมทั้งสิ้นประมาณ 40,000 ล้านบาท ผ่านสาขาธนาคาร และช่องทางบริการเอทีเอ็มที่มีเกือบ 10,000 จุดทั่วประเทศ เพื่อรองรับปริมาณความต้องการเงินสดของประชาชนสำหรับใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ โดยลูกค้าสามารถใช้บริการทางการเงินของธนาคารกรุงเทพได้ที่สาขาไมโครภายในห้างสรรพสินค้าและจุดชุมชนกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงบริการตัวแทนธนาคารที่รองรับธุรกรรมในการฝาก-ถอนเงินสด ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้าน 7-Eleven โลตัส บริการ Bank@Post ของไปรษณีย์ไทย และบริการผ่านตู้บุญเติม (ฝากเงินสด) ซึ่งมีจุดให้บริการรวมกันกว่า 140,000 แห่งทั่วประเทศ รวมไปถึงการมอบอั่งเปาแบบ New Normal ผ่านบริการ e-อั่งเปา จากช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ของธนาคาร เช่น บริการโมบายแบงกิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ และบริการบัวหลวงไอแบงกิ้ง เพื่อเป็นทางเลือกในการส่งมอบความสุขและความสิริมงคลให้แก่กันได้อย่างมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น
เทศกาลตรุษจีนปีนี้ เป็นการกลับใช้ชีวิตตามปกติ “จ่าย-ไหว้-เที่ยว” แบบ 100% แต่ขอเตือนนิดหนึ่งว่าอย่าประมาทกับ “การใช้จ่าย และใช้ชีวิต” เพราะผิดพลาดมาจะแก้ไขลำบาก