ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง.ผบช.สตม. ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดดำเนินการตามนโยบายของ ผบ.ตร.โดยเคร่งครัดและให้เกิดเป็นรูปธรรม ในการป้องกันปราบปรามและสืบสวนหาข่าว จับกุมขบวนการขนคนต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 18.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ปิยอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.1 พ.ต.อ.ณรงค์เวทย์ โอนสูงเนิน พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 และ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.มิตรชัย พรมจันทร์ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสืบสวน 4 บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. สืบสวนและเฝ้าระวังตามเส้นทาง ถ.พหลโยธิน ทล.1 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะปฏิบัติหน้าที่พบเห็น รถกระบะ TOYOTA REVO สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ตขก-8890 กรุงเทพมหานคร ภายในรถติดฟิล์มทึบ ขับขี่มาด้วยความเร็วและขับขี่หวาดเสียว อาจจะก่อนให้เกิดอันตราย ประกอบกับเจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณเรียกให้ผู้ขับขี่หยุดรถ แต่ผู้ขับขี่ไม่ยอมหยุดและได้เร่งความเร็วรถขึ้นเพื่อพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเห็นว่ามีพิรุธจึงขับรถไล่ติดตามไป จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.57-58 ถ.พหลโยธิน (ขาเข้า) ทล.1 ต.ลำทร อ.วังน้อย จ.พระนคศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สกัดหยุดรถยนต์คันดังกล่าวได้สำเร็จ
เมื่อเข้าตรวจสอบพบ นายตังชัย สัญชาติไทย อายุ 42 ปี เป็นผู้ชับขี่ และพบคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาอีกจำนวน 10 ราย ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทาง นั่งโดยสารมาในห้องโดยสารของรถยนต์กระบะคันดังกล่าว สอบถามนายตังชัย ให้การยอมรับว่า เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2566 ได้รับการประสานจากเพื่อนคนไทย โทรศัพท์มาให้ไปรับแรงงานต่างด้าว ในพื้นที่ จ.สุโขทัย จำนวน 10 คน เพื่อไปส่งในพื้นที่ปลายทาง ในพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยได้รับค่าจ้างในการขนคนเที่ยวละ 20,000 บาท โดยตนรับรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเช้าเมืองและยินยอมที่จะนำไปส่งที่ปลายทาง ส่วนคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาทั้ง 10 ราย ให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทยและเมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้วจะมีคนพาออกมาขี้นรถ เพื่อนำไปหานายจ้างหรือนายหน้า โดยนายหน้าจะเก็บเงินคนต่างด้าว รายละประมาณ 18,000-25,000 บาท
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งขอหา นายตังชัย ผู้ถูกจับที่ 1 ในข้อหา "รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นการจับกุม" และแจ้งข้อหาคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 10 ราย ผู้ถูกจับที่ 2 – 11 ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” พร้อมยึดของกลางรถยนต์กระบะคันที่ใช้ก่อเหตุ ในชั้นจับกุมผู้ถูกจับทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ถูกจับส่ง พนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม / หน.ข่าวภูมิภาค