ในการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้ความสำคัญกับการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 65 พรรษา 28 กรกฎาคม 2560 โดยให้ทุกส่วนงานของกองทัพบกเตรียมการ และให้การสนับสนุนทุกภาคส่วนในการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ ทั้งนี้ในส่วนของกองทัพบกจะจัดพิธีถวายราชสักการะและถวายพระพรชัยมงคล, พิธีไถ่ชีวิตโคกระบือ และกิจกรรมบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล รวมทั้งจะร่วมในโครงการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเชิดชูพระเกียรติคุณ ตั้งแต่ กรกฎาคม 2560 – กรกฎาคม 2561
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ยังให้ความสำคัญกับการจัดริ้วขบวนพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งขณะนี้ กองทัพภาคที่ 1 เป็นหน่วยรับผิดชอบ
บูรณาการจัดกำลังในริ้วขบวน โดยเน้นย้ำให้ดำเนินการคัดสรรกำลังพลที่ดีที่สุด คำนึงถึงบุคลิก ลักษณะ ความแข็งแรง มีความพร้อมในการปฏิบัติอย่างสูงสุด และดำเนินการให้กระบวนการฝึกซ้อมมีความสมบูรณ์ในทุกขั้นตอน รวมทั้งให้หน่วยทหารเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่หลายภาคส่วนจัดขึ้นในวาระที่เกี่ยวเนื่องกับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ อาทิ การปลูกต้นดาวเรืองถวายเป็นพระราชสักการะ การประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ เป็นต้น
การประชุมในวันนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานของกองทัพบก ที่ปฏิบัติงานในภารกิจกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ให้ดำเนินตามบทบาทหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย และสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ย้ำให้ทุกส่วนยังคงมุ่งให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาด้วยการใช้กฎหมายหรือกลไกของส่วนราชการ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงเป็นหลัก ควบคู่ไปกับการเข้าไปบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในทุกเรื่องในทุกปัญหา ระมัดระวังมิให้มีการใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขตหรือการเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องผลประโยชน์ โดยให้ผู้บังคับหน่วยกำกับดูแลอย่างเข้มงวดและใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ให้หน่วยอำนวยความสะดวกกับผู้ประกอบการและแรงงานต่างด้าวตามแนวทางที่รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติกำหนด
สำหรับการแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยมาตรการสกัดกั้นและปราบปราม ผู้บัญชาการทหารบก ยังคงให้ทุกหน่วยยึดตามแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่าง ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง โดยเฉพาะในพื้นที่ตอนใน ส่วนการสกัดกั้นในพื้นที่ชายแดน กำชับให้ใช้กลไกความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ผู้บังคับหน่วยตรวจสอบพื้นที่ในค่ายทหาร เรือนจำ หรือพื้นที่ในความรับผิดชอบของหน่วยทหาร มิให้ถูกใช้เป็นสถานที่อย่างใดอย่างหนึ่งของผู้ค้ายาเสพติดด้วย