ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
กฟผ.แม่เมาะ เดินหน้าแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่า
27 ม.ค. 2566

กฟผ.แม่เมาะ เดินหน้า Kick off ขับเคลื่อนแผนมาตรการเชิงรุกจังหวัด ป้องกันและระงับไฟป่า 3 ช่วง สนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือทำแนวป้องกันไฟป่าในพื้นที่ฟื้นฟูสภาพเหมือง 250 กม. พร้อมจัดทีมลาดตระเวนร่วมสมทบหน่วยงานส่วนราชการเฝ้าระวังและระงับไฟป่าจุดบริเวณพื้นที่เสี่ยง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ นำโดย นายวิเชียร ทรงพุฒิ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการผลิตเหมืองแม่เมาะ-1 จัดกิจกรรม Kick off ป้องกันไฟป่าและหมอกควัน ประจำปี 2566 ณ ที่บริเวณกองฟื้นฟูสภาพเหมือง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ โดยบูรณาการนำหน่วยกองงานที่เกี่ยวข้องในสังกัด เข้าทำกิจกรรมแบบมีส่วนร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ "หยุดเผา" เดินหน้าขับเคลื่อนแผนยุทธการเชิงรุกป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันตามแนวทางมาตรการจังหวัด พร้อมจัดทีมเฝ้าระวังและคอยระงับเหตุไฟป่าตามแนวเขตบริเวณพื้นที่เสี่ยง โดยทางหน่วยงาน (กฟผ.) แม่เมาะ มีพื้นที่ป่าอยู่ในความดูแลรับผิดชอบประมาณ 9 หมื่นกว่าไร่เศษ มีพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดปัญหาไฟป่า ทั้งในบริเวณพื้นที่ป่าธรรมชาติ และบริเวณพื้นที่ป่าฟื้นฟู ประกอบกับสภาพพื้นที่ปัจจุบันได้ย่างเข้าสู่ภัยแล้ง ทำให้ทั่วบริเวณผืนป่าเริ่มมีปริมาณเชื้อเพลิงสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก

ในการนี้ (กฟผ.) แม่เมาะ มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว เกรงว่าในช่วงหน้าแล้งนี้จะเกิดปัญหาไฟป่าและหมอกควันเหมือนดังเช่นทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนโดยรวม

นายวิเชียร ทรงพุฒิ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการผลิตเหมืองแม่เมาะ-1 เปิดเผยว่า ไฟป่าและหมอกควัน ถือเป็นปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งทาง กฟผ. แม่เมาะ ได้ให้ความสำคัญและดำเนินมาตรการในเชิงป้องกันมาโดยตลอด เฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นที่รับผิดชอบที่มีพื้นที่ป่าจำนวนหลายหมื่นไร่ ซึ่งการทำกิจกรรมครั้งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนแผนยุทธการเชิงรุก เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันที่จะเกิดขึ้น โดยการเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว กฟผ.แม่เมาะ ได้มีการจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจสนับสนุนป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า (ศูนย์ลิกไนต์), มีการจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน กฟผ.แม่เมาะ รวมถึงให้การสนับสนุนหน่วยงานส่วนราชการจัดทีมสมทบเฝ้าระวังและระงับเหตุกรณีเกิดไฟป่าในพื้นที่ อ.แม่เมาะ และติดตามพร้อมรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการ โดยในส่วนของแผนการป้องกันและระงับไฟป่านั้นจะแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ช่วง คือ 1.ช่วงเตรียมการก่อนภัยแล้ง 2.ช่วงการป้องกันไฟป่า และ 3.ช่วงการระงับเหตุ ซึ่งในการปฏิบัติจะมีการจัดกำลังพลเจ้าหน้าที่ ทั้งทีมสนับสนุนและทีมปฏิบัติการ ที่จะลงพื้นที่ไปประจำตามจุดเฝ้าระวังต่างๆ คอยให้การสนับสนุนทั้งในเรื่องอุปกรณ์เครื่องมือและกำลังพล โดยกำลังเจ้าหน้าที่ส่วนนี้

ทาง (กฟผ.) แม่เมาะ จะให้เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครป้องกันและควบคุมไฟป่า ให้กำลังพลส่วนหนึ่งเป็นกำลังเสริมคอยช่วยเหลือหน่วยงานเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตท้องที่ เน้นการปฏิบัติงานเชิงรุกทำหน้าที่เป็นหน่วยลาดตระเวน หรือเป็นชุดเคลื่อนที่เร็ว ซึ่งชุดปฏิบัติการดังกล่าวจะปฏิบัติการออกลาดตระเวนพร้อมอุปกรณ์ดับไฟป่าครบชุด คอยเฝ้าระวังตรวจตราพื้นที่ ทำแนวกันไฟรอบบริเวณเหมืองแม่เมาะ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดปัญหาไฟป่า รวมถึงพื้นที่รอยต่อกับอำเภอใกล้เคียงเป็นประจำทุกวัน หากเมื่อพบเห็นการเกิดไฟป่าหน่วยเคลื่อนที่เร็วจะเป็นหน่วยแรกที่เข้าระงับเหตุแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นทันที กำลังพลที่เหลืออีกส่วนหนึ่งจะเป็นหน่วยเตรียมความพร้อมจัดเตรียมในส่วนของเครื่องจักร รถบรรทุกน้ำ และอุปกรณ์ทุ่นแรงไว้คอยสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นหน่วยประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมให้ชาวบ้านในชุมชนพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า มีการนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้แห้ง ฟางข้าว ตอซัง ฯลฯ มาใช้ทำเป็นปุ๋ยหมักสร้างรายได้เพิ่ม เพื่อจะได้ช่วยลดการเผาเศษวัสดุ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดปัญหาหมอกควัน

ทั้งนี้ ในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ (กฟผ.) แม่เมาะ มุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเผาของชาวบ้านในชุมชนรอบพื้นที่ รวมทั้งยังเพื่อต้องการส่งเสริมสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมให้ประชาชนได้เข้ามาดำเนินการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเฝ้าระวังป้องกันปัญหาตามบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละภาคส่วน ซึ่งจะช่วยให้การแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันในพื้นที่จังหวัดลำปาง เป็นไปอย่างมีระบบและยั่งยืน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...