นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นพ.ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เรื่องการย้ายนายแพทย์สุภัทรไปดำรงตำแหน่งที่โรงพยาบาลสะบ้าย้อยว่า ตนเป็นลูกหม้อของกระทรวงสาธารณสุขมาก่อน เห็นการโยกย้ายเป็นเรื่องปกติ เคยผ่านประสบการณ์การถูกย้ายไปที่ๆเราไม่ชอบไม่ถูกใจมาแล้ว แต่ตนไม่มีปัญหา เชื่อมั่นในดุลพินิจของผู้บริหาร และเชื่อมั่นความโปร่งใส และความสามารถของตน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็ทำงานเต็มที่ ถ้าไม่เคยมีเรื่องฉาว ย้ายออกไปทำงานที่ไหน ก็สบายใจ อย่าลืมว่าเราเป็นข้าราชการ ต้องรับใช้ประชาชนทุกคน ทุกพื้นที่อยู่แล้ว ต้องมีวินัยและสุจริต จะมาคิดยึดติดไม่ได้
กับการโยกย้ายที่เป็นเรื่องราวดราม่าอยู่ตอนนี้ เห็นว่า ทำไปด้วยกระบวนการที่ถูกต้อง ไม่มีเค้าลางของการกลั่นแกล้ง แต่ย้ายเพราะเป็นไปตามระเบียบข้าราชการระดับสูงที่ต้องมีการขยับทุก 4 ปี คุณหมออยู่จะนะมา 20 กว่าปี ก็ถือว่าอยู่นานมากแล้ว จะเรียกว่านานเกิน ก็ไม่ผิด เมื่อก่อน ทำได้ เพราะถือว่า เป็นถิ่นกันดารถือว่าอยู่โดยสมัครใจ เป็นข้อยกเว้นของระเบียบ แต่ตอนนี้ ทั้งพื้นที่ และโรงพยาบาลก็พัฒนาขึ้นมามาก ไม่มีเงื่อนไขเรื่องความลำบากกันดารแล้ว ก็ต้องเข้าสู่ระบบปกติ ถึงเวลาต้องไปใช้ความรู้ความสามารถยังพื้นที่อื่นบ้าง
โดยเป็นการย้ายออกไปไกลจากพื้นที่เดิมแค่ 60 กิโลเมตร และโรงพยาบาลสะบ้าย้อย หมอสุภัทร ก็รู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี เพราะเคยทำงานที่นั่น แสดงว่าพิจารณามาดีแล้ว ว่าอยากให้คุณหมอสบายใจ ไม่ได้ย้ายไปไกลเลย การย้ายก็ไปรับตำแหน่งเดิม สิทธิประโยชน์ เดิมเลย เป็นการย้ายที่ไม่มีความผิดปกติ ถ้ามันจะผิดแผกไปจากการโยกย้ายของท่านอื่น ก็เนื่องมาจากพฤติกรรมของคุณหมอเอง ที่ไม่เหมือนข้าราชคนอื่นๆ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่า ทำไมคุณหมอจึงเลือกที่จะคัดค้านขนาดนั้น ทำไมจึงผูกพันกับโรงพยาบาลจะนะขนาดนั้น
เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกระทบกับขวัญกำลังใจบุคลากรหรือไม่ เพราะมีการปล่อยข่าวว่าหมอสุภัทรถูกกลั่นแกล้ว จากประเด็นการเมือง นายแพทย์รุ่งเรือง กล่าวว่า ไม่มีใครเสียขวัญ ยังทำงานตามปกติ และต่างเข้าใจดีว่า ไม่มีใครถูกกลั่นแกล้ง หรือแกล้งใคร ไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่เป็นกระบวนการทางข้าราชการ เพื่อการบริหารจัดการที่ดี ควบคุมการทำงานให้สุจริต เพื่อสร้างประโยชน์ให้ประชาชนมากที่สุด คนที่เสียขวัญมีเพียงหมอสุภัทรคนเดียว และขออย่าให้นำการเมืองมาก้าวก่ายข้าราชการประจำ