BAM รุกช่วยเหลือสังคม เปิดตัวโครงการ “สุขใจ ได้บ้านคืน” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยของ BAM ได้หลักประกันซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยคืนง่ายขึ้น ด้วยเงื่อนไขที่ดีกว่า โดยเปิดโอกาสให้ชำระ หนี้ในอัตรา 80% ของราคาประเมินหลักประกัน และสามารถเลือกชำระครั้งเดียว หรือผ่อนชำระไม่เกิน 10 ปี อัตราดอกเบี้ย MLR ของ BAM เริ่มโครงการตั้งแต่วันนี้ – 29 ธันวาคม 2560 ชี้การปรับโครงสร้างหนี้ที่ผ่านมา เน้นความสามารถในการชำระหนี้เป็นหลัก
นายชูพงษ์ โภคะสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการ “สุขใจ ได้บ้านคืน” เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกหนี้รายย่อยสามารถชำระหนี้และนำทรัพย์หลักประกัน ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยกลับคืนไปง่ายขึ้น ด้วยเงื่อนไขที่ดีกว่าเดิม
ทั้งนี้ แนวทางการประนอมหนี้ ลูกหนี้จะได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าว ด้วยเงื่อนไขที่ผ่อนปรน โดยสามารถชำระหนี้ในอัตรา 80% ของราคาประเมินหลักประกัน และสามารถเลือกชำระครั้งเดียว หรือผ่อนชำระไม่เกิน 10 ปี อัตราดอกเบี้ย MLR ของ BAM ตลอดระยะเวลาการผ่อนชำระ ทั้งนี้ต้องไม่เกินระยะเวลาบังคับคดี ซึ่งคุณสมบัติของลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นลูกหนี้ BAM ที่มีภาระหนี้เงินต้นต่อรายไม่เกิน 5 ล้านบาท และเป็นลูกหนี้ประเภทสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และ/หรือ สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีหลักประกันเป็นที่อยู่อาศัยเป็นบุคคลธรรมดาที่ยังไม่ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด รวมถึงไม่มีภาระหนี้บัญชีอื่น และ/หรือ ไม่เป็นลูกหนี้ร่วม/ผู้ค้ำประกัน/ผู้จำนอง/ ผู้จำนำ ลูกหนี้อื่น ของ BAM และไม่มีทรัพย์สินอื่น เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยจริงๆ โดยลูกหนี้สามารถแจ้งความประสงค์ขอเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ – 29 ธันวาคม 2560
นายนพรัตน์ อุ่นจัตตุรพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ BAM กล่าวว่า ที่ผ่านมา BAM ได้รับซื้อรับโอนหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) จากสถาบันการเงินเข้ามาบริหารจัดการ จำนวน 178,243 ราย คิดเป็นภาระหนี้เงินต้น จำนวน 638,935 ล้านบาท ปัจจุบันคงเหลือลูกหนี้ที่อยู่ในความดูแล จำนวน 76,254 ราย คิดเป็นภาระหนี้เงินต้น จำนวน 437,082 ล้านบาท โดยมีจำนวนลูกหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือลูกหนี้ที่มีหลักประกันเป็นที่อยู่อาศัย ที่มีภาระหนี้เงินต้นไม่เกิน 5 ล้านบาท จำนวน 21,285 ราย รวมภาระหนี้เงินต้น จำนวน 28,978 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของลูกหนี้ทั้งหมด ซึ่งเป็นกลุ่มลูกหนี้ที่คาดว่าจะเข้าร่วมโครงการได้ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะช่วยลดภาระให้กับลูกหนี้รายย่อยของ BAM ได้ที่อยู่อาศัยกลับคืนไปด้วยเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม โดยลูกหนี้สามารถรีไฟแนนซ์ไปยังสถาบันการเงินอื่น หรือเลือกผ่อนชำระกับ BAM ซึ่งขยายระยะเวลาการผ่อนชำระให้ถึง 10 ปี
อย่างไรก็ดี การปรับโครงสร้างหนี้ที่ผ่านมานั้น BAM จะใช้แนวทางการประนอมหนี้บนพื้นฐานความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อให้ได้ข้อยุติและผลประโยชน์สูงสุดร่วมกันทั้งสองฝ่าย และสามารถเจรจาประนอมหนี้ได้แม้ว่าจะอยู่ในขั้นตอนการดำเนินคดีก็ตาม โดยจะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้เป็นหลัก และมุ่งช่วยเหลือลูกหนี้ที่สุจริตให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ รวมทั้งได้ทรัพย์หลักประกันกลับคืนไป