ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
รัฐเตรียมถุงยางอนามัย แจกผู้มีสิทธิบัตรทอง แก้ปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
31 ม.ค. 2566

​รัฐบาลห่วงใยปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เตรียมถุงยางอนามัย 94 ล้านชิ้น แจกผู้มีสิทธิบัตรทอง ครั้งละ 10 ชิ้น/คน/สัปดาห์ ไม่เกิน 52 ครั้ง/คน/ปี เริ่ม 1 ก.พ. นี้

วันที่ 31 มกราคม 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมุ่งเน้นให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง ภายใต้หลักการพื้นฐานเรื่องการสร้างความเป็นเอกภาพและบูรณาการสิทธิประโยชน์ในระบบประกันสุขภาพให้เป็นแนวทางเดียวกัน โดยเฉพาะการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รัฐบาล โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เดินหน้าสนับสนุนบริการถุงยางอนามัยอย่างต่อเนื่อง จัดเตรียมถุงยางอนามัย 94.56 ล้านชิ้น สำหรับประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท ที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์สามารถขอรับถุงยางอนามัยครั้งละ 10 ชิ้น/คน/สัปดาห์ ไม่เกิน 52 ครั้ง/คน/ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2566 เป็นต้นไป

นางสาวรัชดา กล่าวว่า ผู้มีสิทธิบัตรทองฯ สามารถเข้ารับถุงยางอนามัยได้ที่หน่วยบริการประจำและหน่วยบริการปฐมภูมิ หน่วยบริการที่รับส่งต่อเฉพาะด้านเวชกรรม ด้านการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ด้านบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ร้านยา และคลินิกชุมชนอบอุ่น เป็นต้น ด้วยการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” บนสมาร์ทโฟน และในกรณีผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน ใช้บัตรประชาชนลงทะเบียนรับบริการได้ที่หน่วยบริการโดยตรง ส่วนขนาดถุงยางอนามัยที่จัดให้บริการ มี 4 ขนาด เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการและสามารถเลือกขนาดถุงยางอนามัยได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงช่วยลดปัญหาภาวะท้องไม่พร้อมในกลุ่มวัยรุ่น

“การใช้ถุงยางอนามัย สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ และเพิ่มความปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย (Safe sex) อาทิ โรคซิฟิลิส โรคมะเร็งปากมดลูกจากเชื้อเอชพีวี หนองใน หนองในเทียม และเอดส์ เป็นต้น การกระจายถุงยางอนามัยภายใต้สิทธิประโยชน์บัตรทองนี้จึงเป็นการส่งเสริมการป้องกันโรคและดูแลสุขภาพที่ดีแก่ประชาชน” นางสาวรัชดา ย้ำ

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...